องการสัก

คำอาราธนาธรรมสำเร็จนวโกฏิ์

            อิมินา สักกาเรนะ ตังพุทธัง อภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ตังธัมมัง อภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ตังสังฆัง อภิปูชะยามิ

            อะระหัง สัมมาสัมพุทโธภควา พุทธัง ภควันตัง อภิวาเทมิ

สวาขาโต ภควะตาธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ

สุปฏิปันโน ภควะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิฯ

                               

นะโม ๓จบ

       นะโมพุทธายะ  ขออันเชิญพระพุทธะมาสถิตประจำจิตข้า                       

            ขออันเชิญพระธรรมะมาสถิตประจำจิตข้า

            ขออันเชิญพระปัจเจกะพุทธะมาสถิตประจำจิตข้า       

          ขออันเชิญพระสังฆะมาสถิตประจำจิตข้า                                                                           นะมะนะอะนะอุ  นะมะนะอะนะอุ  นะมะนะอะนะอุ

มะนะอะนะอุนะ  อะอุนะมะนะอุนะ

นะมะอะอุ  มะอะอุนะ อะอุนะมะ อุนะมะอะ

มะอะอุ นะมะพะธะ นะโมพุทธายะ  พุทโธ 

นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง  นะอังมะกะ นะอะอะนะ

นออะกอนอ นะออกะกะ นะกะอังกะ  นะออกะนะ นะนออะกอ  อะอะนะนอ                                  นะกอกอนะ  อะอะกะอะ  อะกออออะ กะนอนะนะ

พุทธะนิมนต์ ธัมมะนิมนต์ สังฆนิมนต์ นิมนต์ๆๆ  มนต์ๆๆ สาธุๆๆ พุทโธ ๆๆๆโธๆๆๆๆๆๆๆ

จุดเทียนชัย

      พุทโธสัพพัญญุตตะญาโน ธัมโมโลกุตโรวะโร สังโฆมัคคะผะลัฎโฐจะ

 อิจเจตังระตะนะตะยัง เอตัสสานุภาเวนะสัพพะทุกขาอุปปัททวา อันตรายาจะนัสสันตุ สัพพะโสตถี ภะวันตุเมฯ

พุทธังเทวานัง ชะยะมังคะลัง ธัมมังเทวานัง ชะยะมังคะลัง สังฆังเทวานัง ชะยะมังคะลังฯ

คาถาบูชาพระเจ้า

นะโมพุทธายะ

ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง ฯ

            สัมพุทโธ  ทิปะทัง  เสฏโฐ              นิสินโน  เจ  วะ  มัชฌิเม

โกณฑัญโญ  ปุพพะภาเค  จะ                     อาคเณยเย  จะ  กัสสะโป

สารีปุตโต  จะ  ทักขิเณ                                หะระติเย  อุปาลี  จะ

ปัจฉิเมปิ  จะ  อานันโท                    พายัพเพ  จะ  ควัมปะติ

โมคคัลลาโน  จะ  อุตตะเร              อีสาเนปิ  จะ  ราหุโล

อิเม  โข  มังคะลา  พุทธา                 สัพเพ  อิธะ  ปะติฏฐิตา

วันทิตา  เต  จะ  อัมเหหิ                   สักกาเรหิ  จะ  ปูชิตา

เอเตสัง  อานุภา  เวนะ                                 สัพพะโสตถี  ภะวันตุโน

                        อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง

                        นะมัสสะมาโน  ระตะนัตตะยังยัง

                        ปัญญาภิสันทัง  วิปุลัง  อะลัตถัง

                        ตัสสานุภาเวนะ  หะตันตะราโย

(สวดสองครั้งคือต้นพิธี๑จบ หลังพิธี๗-๙-๑๐๘หรือมากกว่านั้นยิ่งดีนักแล)

บูชาพระรัตนตรัย

มะอะอุ นะมะพะธะ นะโมพุทธายะ พุทโธ

สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง

พุทโธ พุทโธ พุทโธ

    พระอะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ โสธายะ อิกะวิติ

 พุทธบูชามหาเตชะวันโต  ธัมมะบูชามหาปัญญะวันโต  สังฆะบูชามหาโภคะวะโห ติโลกะเสฏฐัง อภิปูชะยามิ ปูชาทะยามะ  ปฏิปฏิบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา บูชาคุณบิดา  สุคะเตเชเสติ  ปฏิปฏิบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา บูชาคุณมารดา ปริตตา สุคะเตเชเสติ

ปฏิปฏิบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา บูชาคุณครูบารอาจารย์ ปูชาทะยามะ

       อัคคีพหูปุปผัง อะหังคิเนทัตวา ปัพพาเชถะมัง ภันเต อะนุกัมปัง อุปาทายะ สัพพะทุกขะ  นิสสะระณะ นิพพานะ สัจฉิกะระณัฏฐายะ เอวังคัจฉะเหตุตวา สุธัมมะวิเสโส   พุทโธ ภะคะวา ปูชาทะยามะฯ

ตั้งนะโม ๓ จบ

            อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฐามิ

ทุติยัมปิ อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฐามิ

ตติยัมปิ อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฐามิ    (๓ จบ)

* นะมะพะธะ  สะมุสสา หิตะมานะโส  จะปะฏิเหรา วะสานัมหิ    (๓ จบ)

* นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ โสธายะ อิกะวิติ

       ปฐวี กสิณัง เอหิ ปฐวีพรหมา

อาโป กสิณัง เอหิ อาโป อินทรา

เตโช กสิณัง เอหิ เตโช นารายณะ

วาโย กสิณัง เอหิวาโย อิสรา  

     *ปฐวี พรหมา จักขุ จิปิเสคิ

อาโป อินทรา จักขุ ปิเสคิจิ

เตโช นารายะนะ จักขุ เสคิจิปิ

วาโย อิสราจักขุ คิจิปิเส

จิปิเสคิ ปิเสคิจิ เสคิจิปิ คิจิปิเส

คาถาพระเจ้าเปิดโลก

 อิติปิโส โลกะนาถัง พุทธัง บังเกิด ธัมมังบังเกิด สังฆังบังเกิด พระเจ้าประเสริฐเปิดโลก

พระคาถา อิติปิโสอรหัง โมเปิดไว้ให้เห็น ยะที่สุด โสทิพพะจังขุง วิโสธายิ  สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพพะจังขุง วิโสธายิ อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู

                                            

คำถวายข้าวพระพุทธเจ้า

อิมังสูปะพยัญชนะสัมปันนัง สาลีนัง  โภชะนัง  อุทะกังวะรัง พุทธะสะ ปูเชมิฯ

คำถวายเครื่องบูชาครู

           ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระนังคะโต อิมินาสักกาเรนะ ตังอาราธนานังครู                                                            อาจาริยัง อภิปูชะยามิ

          ทุติยัมปิ ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สาระณังคะโต  อิมินาสักกาเรนะ ตังอาราธนานัง

อาจาริยัง อภิปูชะยามิ

            ตติยัมปิ ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สาระณังคะโต  อิมินาสักกาเรนะ ตังอาราธนานัง

อาจาริยัง อภิปูชะยามิ

คาถาเชิญครู

            จิเจรุนิ จิเจตะสา มะหามันตัง สาธุๆๆ ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการคุณพระพุทธคุณณัง พระธรรมคุณณัง พระสังฆคุณณัง พระศรีรัตนตรัยแก้วทั้ง ๓ ประการ พระพุทธอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเจ้า พระพุทธะอะระหังสัมมาศาสดาเจ้า พระพุทธะศรีศากยมุนีโคดมบรมครูเจ้า พระเจ้าทั้งยี่สิบแปดพระองค์   ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง  พระพุทธะชินสีห์ พระพุทธชินราช พระศาสดา พระพุทธะสิหิง พระแก้วมรกต พระพุทธโสธร พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม พระธาตุจุฬามณี  พระศรีสรรเพชร พระธรรมเจ้าทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ จบพระกัณฑ์ไตรปิฏก ข้าพเจ้าขออาราธานาเข้ามาอยู่ในดวงจิต ในหทัยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกระทำการสิ่งใด ขอให้ประสิทธิ ขอเดชเดชะบิดามารดา ครูบาร์อาจารย์ เทพปวงเทวา มหาเทพเทวาธิราช เทพเจ้าทั้งหมื่นโลกธาตุ จงมาเป็นที่ตั้งให้แก่ข้าพเจ้าบัดนี้เถิด

    โย อาจาริโย พานิช บารมีวิชาคระรรมสำเร็จนวโกฏิ  กาละกัญชามหาภิสะมา โสตัตตะภิญญา นะมามิหังฯ

  สิบนิ้วข้าพเจ้าจะขอกราบไหว้วันทานมัสการขอสรรเสริญแด่คุณพระและคุณครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทย์ อันเป็นมิ่งมิตรทั่วโลกา ข้าพเจ้าขอไหว้เทพยาดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งองค์พระพรหม มหาพรหม  มหาเทวา  ผู้เรืองฤทธิ์กร อีกทั้งพระครูผู้รู้ไสยศาสตร์ โหราจารย์ จงมาปกเกศปิตุเรศชนนี   พระโมคคัลลานะก็ดี พระสารีบุตรก็ดี พระสิวลีเถระเจ้าก็ดี พระอุตระเจ้าก็ดี พระอุปคุตเถรเจ้าก็ดี พระภคะวัมบดีเจ้าก็ดี หลวงปู่สมเด็จลุนก็ดี หลวงปู่พิบูลย์ วัดบ้านแดงก็ดี พระครูวิมลคุณากร หลางปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าก็ดี พระครูขันติวรานุยุต หลวงปู่สุวรรณ ขันติโกก็ดี และหลวงพ่อหลวงปู่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม ทั้งที่ได้กล่าวนามไปแล้วก็ดี ยังมิได้กล่าวนามก็ดี ขอจงมาเป็นสักขีพยาน ให้ข้าเจ้าซึ่งจะท่องวาพระคาถา อาคม ปั่นธรรม ให้บรรลุสมและศักดิ์สิทธิ์เป็นมิตร ดีแก่ตัวข้า ก็ข้าเทอญฯ

บูชาครู

            อัคคี พะหู บุปพัง อะภิวันทะนามิ วันทิตะวา ครูอาจาริยังปาทัง เทวะ สักกะระวันทะนัง ปูเชมิ ยะมะหัง สะระณังคะโต อิมินา สักกาเรนะ ตังอาราธนานัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ

            ทุติยัมปิ วันทิตะวา ครูอาจาริยังปาทัง เทวะ สักกะระวันทะนัง ปูเชมิ ยะมะหัง สะระณังคะโต อิมินา สักกาเรนะ ตังอาราธนานัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ

            ตติยัมปิ วันทิตะวา ครูอาจาริยังปาทัง เทวะ สักกะระวันทะนัง ปูเชมิ ยะมะหัง สะระณังคะโต อิมินา สักกาเรนะ ตังอาราธนานัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิฯ

คำอาราธนาดวงแก้ว (คำครองธรรม)

อุกาสะข้าพเจ้าขออาราธนาเฮิ่งพระอุปจาระวิถี พระปันนาวิถี สัมมาธิ พระนวโลกุตตะระ พระธรรมเจ้าอันมีในห้อง พระขุทธะกาปิติ พระขณิกาปิติ พระโอกะติกาปิติ พระอุกเกกะปิติ พระผะลันนาปิติ ธรรมเจ้าดวงประเสริฐ อันบังเกิดมาแต่พระพุทธเจ้า แต่พระปัจเจกโพธิเจ้า แต่พระอรหันตเจ้า อันล่วงเข้าสู่พระนิพานไปแล้วมากกว่าเม็ดหินเม็ดทราย ทั้ง 4 มหาสมุทร ตันเต ประเพณี แต่พระพุทธเจ้า แต่พระปัจเจกะโพธิเจ้า แต่พระอะระหันตเจ้าลืมฉันใด ขอพระพุทธเจ้าทั้งปวงจงมาบังเกิดในวิถาระกว้างตั้งอยู่ในขั้นทั้ง 5 แห่งข้าพเจ้า ในกาลบัดเดี๋ยวนี้เทอญ

อิติปิโส ภะคะวา ปาฏิหาริยัง อาคะมิสติสาธุ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ

(  อะระหัง สัมมา สัมพุทโธภควา พุทธัง ภควันตัง อภิวาเทมิ

สวาขาโต ภควะตาธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ

สุปฏิปันโน ภควะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิฯ  ) ( 3 จบ)

            อะระหัง ข้าพเจ้าขออาราธนาเอาแก้วมณีโชติ ดวงประเสริฐ เจ้าจงมาตั้งอยู่หัว  แห่งข้าพเจ้า บัดเดี๋ยวนี้เทอญ

            อะระหัง ข้าพเจ้าขออาราธนาเอาแก้วไพรฑูรย์ ดวงประเสริฐ เจ้าจงมาตั้งอยู่อก  แห่งข้าพเจ้า บัดเดี๋ยวนี้เทอญ

            อะระหัง ข้าพเจ้าขออาราธนาเอาแก้วปัทมราช ดวงประเสริฐ เจ้าจงมาตั้งอยู่หน้า แห่งข้าพเจ้า บัดเดี๋ยวนี้เทอญ

            อะระหัง ข้าพเจ้าขออาราธนาเอาแก้ววิเชียร ดวงประเสริฐ เจ้าจงมาตั้งอยู่หลัง แห่งข้าพเจ้า บัดเดี๋ยวนี้เทอญ

            ข้าพเจ้าขออาราธนาเอาดวงแก้วทั้ง 4 ดวงประเสริฐขอจงมาบังเกิดในวิถาระกว้างขวางตั้งอยู่ใน ขันธ์ ทั้ง 5 แห่งข้าพเจ้า บัดเดี๋ยวนี้เทอญ นิพานะปัจจะโย โหตุฯ

โลกกุตตะระธรรม

            อุกาสะในที่นี้เราข้าจะปฏิปฏิบูชา บูชาตามคำสั่งสอน ของพระสัพพัญญูโคดมเจ้า ข้าจักขอเอายัง ลักขณะไตร ลักขณะเจ้า อันเกิดมีในกงจักร แห่งพระบาทบาทา แห่งพระพุทธเจ้า ทั้งคู่ จงมาเกิดอยู่ในจักขุทวาร ในมโนทวาร ในกายทวาร แห่งข้าพเจ้าในขณะเมื่อข้านั่งภาวนาได้แล ข้ายังไปบ่มีได้ ยังลักขณะ พระไตร ลักขณะเจ้า อันมีในกงจักร แห่งพระพุทธเจ้า เมื่อว่าเนื้อข้าบก เลือดข้าแห้ง เอ็นข้าขาด สันหลังข้าบกถึงกระดูก อยู่แท้ดังนี้ก็ดี หลอนว่าชีวิตแห่งข้าค่อยเป็นไป ข้าค่อยกระทำความเพียร ปฏิปฏิขอเอายังลักขณะอันมีในกงจักร แห่งพระบาทบาทาแห่งพระพุทธเจ้า ทั้งคู่ จงมาเกิดอยู่ในจักขุทวาร ในมโนทวาร ในกายทวาร แห่งข้าพเจ้าแท้ดีหลี ข้าจักค่อยบริกรรมไปว่า สาม ทีได้แล ร้อยทีได้แล ว่าพันทีได้แล ขอพระธรรมเจ้าจงมาปรากฏ แก่จักขุทวาร ในมโนทวาร ในกายทวาร แห่งข้า นิพพานะปัจจะโย โหตุ

พระคาถา 19 บท

           

            1.โลกุตตรัง ฌานัง                                       2.โลกุตตรัง มัคคัง ฌานัง

            3.โลกุตตรัง สติปัฎฐานัง ฌานัง                             4.โลกุตตรัง สัมมัปปทานัง ฌานัง

            5.โลกุตตรัง อิทธิปาทัง  ฌานัง                   6.โลกุตตรัง  อินทรียัง  ฌานัง

            7.โลกุตตรัง พลัง  ฌานัง                             8.โลกุตตรัง โพชฌังคัง ฌานัง

            9.โลกุตตรัง  สัจจัง ฌานัง                           10.โลกุตตรัง สัมมัชชนัง ฌานัง

            11.โลกุตตรัง ธัมมัง ฌานัง                          12.โลกุตตรัง  ขันธัง  ฌานัง

            13.โลกุตตรัง อายะตะนัง ฌานัง                14.โลกุตตรัง ธาตุง ฌานัง

            15.โลกุตตรัง สัมผัสสัง  ฌานัง                  16.โลกุตตรัง เวทนัง  ฌานัง

            17.โลกุตตรัง สุญญัง  ฌานัง                       18.โลกุตตรัง เจตนัง  ฌานัง

            19.โลกุตตรัง  จิตตัง  ฌานัง

*พระคาถา 19 บท สวดเดินหน้าถอยหลัง เรียกว่า อนุโลม ปฏิโลม

บทอาราธนาวัตถุมงคล

อิทธิ ฤทธิ อิทธิ ฤทธัง ขอเตชะเตชัง ขอเดชเดชะทั้งหลาย จงมาเป็นที่พึ่งให้แก่ข้าพเจ้า นี้ด้วยเถิด มะอะอุ นะมะพะธะ  นะโมพุทธายะ  พุทโธ สัมสัมพุทธัสสะพระอะระหัง สัมมาสัมพุทโธ นะโมพุทธายะ พุทธัง วันทิตตะวา พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง วันทิตตะวา ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง วันทิตตะวา สังฆัง อาราธนานัง

            พุทธัง ประสิทธิเม ธัมมัง ประสิทธิเม สังฆัง ประสิทธิเม วันทิตตะวา สิระสา พุทธัง เตชัยยัง ธัมมัง เตชัยยัง สังฆัง เตชัยยัง ปะวะรัง ครูบาทิตตะยัง อะหังปูเชมิฯ

คำบูชาพระพุทธะอนุตะระสัมมาสัมโพธิฌานเจ้า

            นะทรงฟ้า โมทรงดิน พุททรงศีล ธาทรงสมุทร ยะทรงอากาศ สารพัดกูจะทรง สะวาหะ พุทธังทรง อิสวาสุ สุสวาอิ  ธัมมังทรง อิสวาสุ สุสวาอิ  สังฆังทรงอิสวาสุ สุสวาอิ

            อิติปิโส ภะคะวา พระพุทธะอะนุตตะระสัมมาสัมโพธิญาณ สมาธิญาณะสัมปันโน

            กาเยนะวาจายะวะเจตะสาวา อนุตตะรังสัมมาสัมโพธิญาณ พุทธะรูปัง นะมามิหัง

ทุติยัมปิ กาเยนะวาจายะวะเจตะสาวา อนุตตะรังสัมมาสัมโพธิญาณ พุทธะรูปัง นะมามิหัง

ตติยัมปิ กาเยนะวาจายะวะเจตะสาวา อนุตตะรังสัมมาสัมโพธิญาณ พุทธะรูปัง นะมามิหัง

สมุสสาหิตะมานะโส จะ ปฏิเหราวสานัมหิ

            อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิฯ

อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิฯ

คาถาบูชา พระพุทธะอะระหังสัมมาศาสดาเจ้า

            อิติปิโส ภะคะวา พระพุทธะอะระหังสัมมาสัมโพธิญาณ สมาธิญาณะสัมปันโน

กาเยนะวาจายะวะเจตะสาวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พุทธะรูปัง นะมามิหัง

ทุติยัมปิ กาเยนะวาจายะวะเจตะสาวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พุทธะรูปัง นะมามิหัง

ตติยัมปิ กาเยนะวาจายะวะเจตะสาวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พุทธะรูปัง นะมามิหัง

            จิเรรุนิ อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ สังวิธาปุกะยะปะ อะสังวิสุโลปุสะภุพะ นะโมพุทธายะ อะสังวิสุโลปุสะภุพะ นะอะนะวะ ชาตะมะสาระวา ออ อา ออแอ เมตตาพุทโธ ปาทะลาภัง หังละมาลา กุกุมาลาทิมามา

            อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิฯ

อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิฯ

คาถาบูชาพระศรีศากยมินีโคดมบรมครูเจ้า

 อิติปิโส ภะคะวา พระบรมธาตุ ศรีศากยะมุนี โคดมบรมครูเจ้า สมาธิญาณะสัมปันโน

กาเยนะวาจายะวะเจตะสาวา  สักกาโร นะโมเต อังคี ระสะ สักกะยะปุตตะ มหาวันทนัง พุทธะรูปัง สิโรตะมะ นิรันตะรัง โลเกหิ สัมพุชฌิตา จะ สัจจานิ เกลสนิจทา ปะพุชฌิตา สัพพะโส คุณะวิภา สัมปัตโต พุทโธ นะรุตตะโม มหาลาภัง สัพพะสิทธิภะวันตุเมฯ

อิติปิโส ภะคะวา อิติมันตา สุขาวะหา อิติปิโส ภะคะวา อิติปิพุทธา สุขาวะหา

อิติปิโส ภะคะวา อิติ จีวะระโกปัตตะ มะอะอุ โลกะวิทู นะมะอะอุ อุหาสติ อุปะสัมปะ สัมปะติฏฐามิ พุทธะสังมิ สังสิโมนา ธัมมะสังมิ โมนาสังสิ สังฆะสังมิ  สิโมนาสัง

            อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ

อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส

            นะโมพุทธัสสะ  นะโมธัมมัสสะ   นะโมสังฆัสสะ  พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิฯ

คาถาบูชาหลวงปู่เทพโลกอุดร

            โย อะริโย มหาเถโร อะระหัง อภิญญาธะโร

ปะฏิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก

            พะหู เมตตาทิวาสะโน มหาเถรานุสาสะโก

อะมะตัญเญวะ สุชีวะติ อภินันที คุหาวะนัง

            โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อภิปูชิโต

อิธะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย

            ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ

ปะระมะสารีริกะธาตุ วะชิรัญจาปิวานิตัง

            โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร

อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ

            สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง วะเรนะ สุภาสิตัง

โลกุตตะโร จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต

            โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

มหาเถรานุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

บทบูชา

     อุตะเร อริโย นามะ วันทิตาเตจะ อัมเหหิ จะปูชิตา เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเม  เมตตา ลาโภ นะโส มิยะ อะหะพุทโธ  เมตตา ลาโภ นะโส ทะยะ อะหะพุทโธ

นะโมพุทธายะ นมพท จะภะลาโภ นิโททะโย อะหะ พุทโธ นะโมพุทธายะ อิตติถะลาโภ เอกะลาโภ  ชะโยนิจจังฯ

อธิฐานฤทธิ์

            อะอุมะ พุทโธ นะโมพุทธายะ  นะมะพะธะ รัตตะนะตะยา นุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเม อิทธิ อิทธิ ฤทธิ ฤทธิ สิทธิ สิทธิ ชัยยะ ชัยยะ ลาภะ ลาภะ อุตระเรนะ พุทธะนิมิตตัง อิติ ธัมมะนิมิตตัง อิติ สังฆะนิมิตัง อิติฯ

คาถาบูชาพระอุปคุต

     กิจจะมาคะอุปคุตโต จะมะหาเถโร สัมพุทเธนะวิยาคะโต มารัญจะ มาระพลัญจะ     โสอิทานิ  มะหาเถโร  นะมัสสิตะวา อะหังวันทามิ  อุปคุตตัง จะมหาเถรัง ยังยัง อุปัทวัง ชาตัง วิธังเสติ อะเสสะโต  นะโมพุทธายะ 

   พระมหาอุปคุตโต  พระมหาอุปคุตตัง จะมหาเถโร สัพเพชะนา พหูชะนา อิตถีชะนา มามัง พุทธะจิตตัง จะมหาลาโล พุทธะธัมโม จะมหาลาภัง  พุทธะสังฆัง  จะมหาสัจจัง สัพพะ  สัพพะลาภัง  ภะวันตุเม

    อุปคุตตะ มหาเถโร สัพพะเสน่าหา จะปูชิโต  โสระโห  อุปคุตตะ ปัจจะยาธิมหิ                        อุตตะโมโหติ สัพพะทุกขะ สัพพะภะยะ สัพพะโรคะ พุทธา ธัมมา สังฆา อานุภาเวนะ                              วินาสสันติ

    มะหาอุปคุตโต จะมะหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชา ปุริโส อิตถีโย มานัง มะโนโจรา เมตตาจิตตัง เอหิ จิตติจตตัง  ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มนุสสานัง  สัพพะลาภัง ภะวันตุเม

    เอหิจิตตัง จิตตังพันธะนัง  อุปะคุตตะ จะ มหาเถโร  พุทธะสาวะกะ อานุภาเวนะ มาระวิชะยะ  นิระภะยะ  เตชะปุญญะตา จะเทวะตานัมหิ มนุสสานันปิ  เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมังกายะพันธะนัง อะธิฐามิ ปะอัยยะสุตัง  อุปัสสะอิ ฯ

บทขอขมาพระรัตนะตรัย
   นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะฯ ( ว่า ๓ จบ )
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ
( ถ้าหลายคนว่า.... ขะมะถุโน ภันเต, ฯลฯ,....ขะมะถุ โน ภันเต,                                                         อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ )

      หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย บิดามารดา ครูอุปัชฌาอาจารย์เทพเจ้าเหล่าเทวา ท่านผู้ประเสริฐ ทและผู้มีพระคุณทุกท่าน ทุกรูป ทุกนาม ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี

      ด้วยทางกาย กรรม ๓ วจี กรรม ๔ มโนกรรม ๓ อายะตะนะภายนออก ๖ อายะตะนะภายใน ๖ และด้วยเจตนา หรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ทั้งที่กินผิดก็ดี ยืน เกิน นั่ง นอน ไม่ถูกต้องก็ดี ปลดทุกข์บ่ถูกที่ก็ดี ไปบ่ลามาบ่ไหว้ บ่ครอบ บ่บอกกล่าวก็ดี  จับนั้นบายนี้

ขอนิมนต์พระธรรมเจ้าจงได้เสด็จลงมาลุกกะทายหายกะโทษได้โปรดอดโทษโทสะโมหะทั้งเวรฮ้อยห้าประการ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่นิพพานด้วยเทอญ  เกสา  โลมา นะขา ทันตา ตะโจ

สรรเสริญพระพุทธคุณ

            *พุทธัง ชีวิตตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชา จะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู

อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

            *ธัมมัง ชีวิตตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

            สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติฯ

            *สังฆัง ชีวิตตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง                      โลกัสสาติฯ

พุทธัง  สะระนัง  คัจฉามิ  นามะรูปัง         อะนิจจัง ทุกขัง  อะนัตตา

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ นามะรูปัง                     อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา

สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ นามะรูปัง                        อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ  ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ  นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา

อะนันตัง พะละวัง พุทธัง               อะนันตัง โคจะรัง ธัมมัง

อะนันตัง อะริยัง สังฆัง                  อะนันตัง โพธิมุตตะมังฯ

ชุมนุมใหญ่

            โภนโต เทวา สังขาโย สะหัสสะเทวะสังฆาจะ สัพเพ อินทรา ปะมะมานานายัง สันติ เทวาตารักขันตุ สัพพะทาฯ

อาราธนาธรรม

            พรัมมา จะ โลกาธิปะตี สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา เทเสติ กัตอัญชลีฯ

อันเชิญเทพชุมนุม

            ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ธะตะรัฏโฐ ปะสาสะติ

คันธัพพานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส ปุตตาปิ ตัสสะ

พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทธิมันโต ชุติมันโต

วัณณะวันโต ยะสัสสิโน โมทะมานา อัฏฐังสุ ฯ

            ทักขิณัญจะ ทิสัง ราชา วิรุฬโห ตัปปะสาสะติ

กุมภัณฑานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส ปุตตาปิ ตัสสะ

พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทธิมันโต ชุติมันโต

วัณณะวันโต ยะสัสสิโน โมทะมานา อัฏฐังสุ ฯ

            ปัจฉิมัญจะ ทิสัง ราชา วิรูปักโข ปะสาสะติ

นาคานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส ปุตตาปิ ตัสสะ

พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทธิมันโต ชุติมันโต

วัณณะวันโต ยะสัสสิโน โมทะมานา อัฏฐังสุ ฯ

            อุตตะรัญจะ ทิสัง ราชา กุเวโร ตัปปะสาสะติ

ยักขานัง อาธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส ปุตตาปิ ตัสสะ

พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา อิทธิมันโต ชุติมันโต

วัณณะวันโต ยะสัสสิโน โมทะมานา อัฏฐังสุ ฯ

            ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก

ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง

จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโรทิสา

ทัททัลละมานา อัฏฐังสุ ฯ

            สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน

ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต

ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา

ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ,

            ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

            ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตฺวา

จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ  จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง                 สุตฺวา

ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตฺวา

ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ ยามานัง เทวานัง สัททัง สุตฺวา

ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา

         ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง  เทวานัง สัททัง สุตวา

         พฺรัหฺมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ พฺรัหฺมะปาริสัชชานัง เทวานัง       สัททัง สุตวา

         พฺรัหฺมะปะโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ พฺรัหฺมะปะโรหิตานัง เทวานัง       สัททัง สุตวา

มะหาพฺรัหฺมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ มะหาพฺรัหฺมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

อาภัสสะรา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

สุภะกิณฺหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ สุภะกิณฺหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

(อะสัญญิสัตตา เทวา สัททะมนุสสาเวสุง อะสัญญิสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา)

เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา

สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา

อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ

ครูสักเลขยันต์นะ

            โอม มะอะอุ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง อะหังสามิชะยัง ปิโยชะยัง สัญญังโภคัง ละภิสสามิ ยามวิชีวัมปิ ภุญชะเร โสธะนัมปิ คะเหตุตะวานะ ทานัง อะทาสิ สัญญะทาตัง ทะนะมิ พัสสะเหเม อิจฉันติ หุลู หุลู หุลู หุลู หุลู หุลู หุลู

ครูเวทย์มนต์

            วันทิตะวา สุคะตังนาถัง พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สาธุกัง นะโมพุทธายะ ทิพพะมันตะนัง ปะจักขามิยะถาพลัง ปัญจอักขรานิชาตา นะโมพุทธายะ วันทะติฯ

            นมัสสิตะวา อิสีสิทธิโลกะนาถัง อนุตตะรัง อิสีจะพันธะนัง สาตราอะหัง วันทามิตังอิสี โอม มะอะอุ ฤ ฤา ฦ ฦา มหานะมะ จุติจุตัง อะระหังจุติ โอม มณิปัททะเมฮุง หะริ ประสิทธิเวทย์สะฯ

            วันทิตะวา อาจาริยัง ครูปาทัง อันตะรายัง วินาสสันติ สัพพะกัมมา ประสิทธิเมณ

วันทิตะวา สิระสา พุทธังเตชัยยัง ธัมมังเตชัยยัง สังฆังเตชัยยัง ปะวะรัง ครูปาทิตะยัง อะหังปูเชมิฯ

มหาสาตราพระเจ้า

            มะอะอุ อะทิกะมูลัง ตรีเทวานัง มหาสาตรา อุอุ อะอะ มะมะ มันตรา อุสาอาวา มะหามันตัง มะอะอุโลเกปะเญยยัง อังการะเส วะราชิโน ตรีณิอักขะรานิ ชาตานิ อุณาโลมา ปะนะชายะเต นะโมพุทธายะ สัตถุโน พุทโธฯ

            นะกาโรกุกุสันโธ โมกาโร โกนาคะมะโน พุทธะกาโร กัสสะโป ธากาโร โคตะโม ยะกาโรอริยะเมตตรัยโย ปัญจะพุทธา นะมามิหังฯ

คำไหว้ครู

            วันทิตะวา สัพพะพุทธานัง สัพพะคุณะมเหสินัง ปาเทจะอาจาริยัสสะ ปาทัง มัคคานะทัสสะนัง ภุมเมสุเจวะสัคเคสุ พรัหมเทเว มหิธิเก กาหามิปินิยยะทานัง เอเตสัง กายะมัตตะโน สัพเพปิ อันตรายเม มาเหสุง ตัสสะเตชาสา สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สัพพะสิทธิ ภะวันตุเมฯ

คำสมาทาน

ถนะสะหัสสาสิ  สะมาธิยามิ นะ จิเจรุนิ คัจฉะติ อาโป อัสสา โสสุญญัง นัพพานัง

(บทนี้ขับธาตุ)

มะสะหัสสาสิ สะมาธิยามิ มะ จิเจรุนิ จรติปฐวี ปัสสาโส หะทะยัง สิวัง

 (บทนี้ เรียกธาตุ)

พะสะหัสสาสิ สะมาธิยามิ พ จิเจรุนิ สาธุนะเตโช เอกะฌานัง ปะระมัง ญัตตา

 (บทนี้ ปลุกธาตุ)

ธะสะหัสสาสิ สะมาธิยามิ สะ จิเจรุนิ  สัพพังปานังกะ

 (บทนี้ ผูกธาตุ)

คุณครู

            โองการพินธุนาถัง อุปปันนานัง พรหมาสะหะปะตินามัง อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจะปะทุมัง ทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะนังฯ

ธรณีสาร (ทำน้ำมนต์ไล่ผี ถอนคุณ)

            ปะเสยะหะปัตตัง ริตติ ริตติ ลิตติ ลิตติ ตีติ ตีติ มิตติ มิตติ จุติ จุติ มุตติ มุตติ จิตติ ธรณีนามะอิมังอะหังวันทามิสักกิจจัง

            นะโมนะมะ สิโร เม พุทธะเทวัญ จะ นะลาเต พรหมะเทวะตา หะทะยังนารายะกัญเจวะ ทะเวหัตเถปะระเมสุรา ปาเทวิสะณุกัญเจวะ สัพพะกัมมาประสิทธิเม  สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทาโสตถีภะวันตุเมฯ

อันเชิญครูชุมนุม

            พุทธังวันทิตวา ข้าพเจ้าไหว้แล้วซึ่งพระพุทธคุณณัง

ธัมมัง วันทิตวา ข้าพเจ้าไหว้แล้วซึ่งพระธัมมะคุณณัง

สังฆัง วันทิตวา ข้าพเจ้าไหว้แล้วซึ่งพระสังฆะคุณณัง

            อนึ่ง ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมมะเจ้า คุณพระสังฆะเจ้า อีกทั้งคุณบิดามารดา คุณอุปัชฌาย์ครูอาจารย์ คุณพระฤาษีนารอท คุณพระฤาษีนาไลย์ คุณพระฤาษีกระไลยโกฏิ คุณพระฤาษีตาวัว คุณพระฤาษีตาไฟ คุณพระฤาษีกัสสปะ คุณพระฤาษีไกรภพ คุณพระฤาษีทัสสะมงคล ทั้งพระเพชชฉลูกัญ อีกทั้งครูพระดาบส อีกทั้งนักพรตและนักสิทธิ์วิทยาธร อีกทั้งพระนางแม่ธรณี พระคงคา พระเพลิง พระพาย พระอิศวรผู้เป็นเจ้าฟ้า เธอจึงมาประสิทธิ์พระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า

            ข้าพเจ้าขออัญเชิญ มหาเทพเทวาธิเทวะทั้งหลายทั่วพื้นปฐพีดล พระฤาษีทั้ง ๑๐๘ ตน มาบันดาลดลด้วยสรรพพิทย์แลวิทยา พระครูพา พระครูเฒ่า ครูพักแลอักษร สถาพรกรรมสิทธิ์แก่ข้าพเจ้า ในกาลบัดนี้เถิด

            อิติปิโส ภะคะวา ข้าพเจ้าขออัญเชิญพระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาอยู่เหนือเกล้าเหนือผม ขออัญเชิญพระพรหมมาอยู่บ่าซ้าย ขออัญเชิญพระนารายณ์มาอยู่บ่าขวา ขออัญเชิญพระแม่คงคามาเป็นน้ำลาย ขออัญเชิญพระพายเสด็จมาเป็นลมปาก ขออัญเชิญพญานาคมาเป็นสร้อยสังวาลย์ ขออัญเชิญพระกาฬเสด็จมาเป็นดวงใจ ข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใด ภูตใด พรายใด อย่าได้มาเบียดเบียนบีฑา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขออัญเชิญคุณครูแต่หนหลัง พระฤาษีทั้ง ๑๐๘ ตน เดชะคุณครูบาธิยายอันเลิศล้ำ คุณครูอยู่ในถ้ำจงมาช่วยอวยพรแก่ข้าพเจ้า

            พุทธัง ประสิทธิมหาประสิทธิ

            ธัมมัง ประสิทธิมหาประสิทธิ

            สังฆัง ประสิทธิมหาประสิทธิ

            อิทธิ ฤทธิ อิทธิฤทธัง อิติประสิทธิ ภะวันตุเมฯ

โองการเชิญครูเข้าตัว

            วันทิตะวา อาจาริยัง ครูปาทัง อาคัจฉัจหิ สัพพะกัมมา ประสิทธิเม สัพพะอันตะรายัง วินาสสันติ สัพพะสิทธิภะวันตุเมฯ

            นะโม นมัสการครูอาจารย์เชิญท่านมาสู่ คุณครูทั้งหลายเชิญท่านเอ็นดู ตูข้าจะกระทำการจะขอปลุกมนต์ ปลุกทั่วตัวและมณฑล ปลุกเครื่องขลังนี้ ปลุกยันต์มหายันต์แล อักษรถ้วนถี่ ปลุกกายกายีทุกสิ่งนานา ปลุกน้ำแลเลือดให้เดือดขึ้นมา ปลุกนามอักขรา อึกอัก พระธรรม  นะมะนะอะ นะกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง  อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ

            พระพุทธังแผลงฤทธิ์ พระพุทธะเจ้าให้ประสิทธิ์ ประสิทธิ์ด้วยพระพุทธัง

คุณครูกุขลังว่าอะไรให้เป็นนั้น

            พระธัมมังแผลงฤทธิ์ พระธัมมะเจ้าให้ประสิทธิ์ ประสิทธิ์ด้วยพระธัมมัง

คุณครูกุขลังว่าอะไรให้เป็นนั้น

            พระสังฆังแผลงฤทธิ์ พระสังฆะเจ้าให้ประสิทธิ์ ประสิทธิ์ด้วยพระสังฆัง

คุณครูกุขลังว่าอะไรให้เป็นนั้น

โองการสถาปนาตน

            เอหิ คาถาปิยังกาโย ทิศาปาโมกขัง อาจาริยัง เอหิ พุทธานุภาเวนะ เอหิ ธัมมานุภาเวนะ เอหิ สังฆานุภาเวนะ โอมสูบๆ กูจะสูบพระคาถาทั้งมวลขึ้นไว้ในคอ กูจะยอพระคาถาทั้งหลายเข้าไว้ในอก กูจะยกพระคาถาทั้งปวงขึ้นไว้เหนือเกศเกล้าเกศา ครูกูให้กูเป็นเอกกว่าคนทั้งหลาย   เอหิ  คล้าย ๆ ปิยังมะมะ มะมะอย่าคลาย

พุทธัง สะระหิ โสมาเรสะ  เรโสทายะ มาเรโสปัง อาคัจฉัยยะ อาคัจฉาหิ

ธัมมัง สะระหิ โสมาเรสะ  เรโสทายะ มาเรโสปัง อาคัจฉัยยะ อาคัจฉาหิ

สังฆัง สะระหิ โสมาเรสะ  เรโสทายะ มาเรโสปัง อาคัจฉัยยะ อาคัจฉาหิ

            นะโมพุทธายะ สิทธิ กะ ขะ คะ ฆะ งะ    จะ ฉะ ชะ ฌะ ญะ    ฏะ ฐะ ฑะ ฒะ ณะ    ตะ ถะ ทะ ธะ นะ   ปะ ผะ พะ ภะ มะ     ยะ ระ ละ วะ สะหะ ฬะ อัง

            ทรงอะ ทรงอา ทรงอิ ทรงอี ทรงอุ ทรงอู ทรงเอ ทรงโอ ทรงเอา ทรงอัง ทรงอะ ทรงนะโมพุทธายะ ทรงอักขระทั้ง ๔๔ ตัว โอกาเส ติฏฐาหิ ติฏฐาติ (ภาวนา ๓ จบ เป่าใส่ตนเอง)

            คาถาผูกมนต์มิให้หนี

            *อิติอักขรา นามะโหติ เอหิ พันธัง พันธัง จิเรรุนิ อิสะเยนะ วิกรึงคะเร จิเจตะสา มหามันตัง พุทธังรัตตะนัง ธัมมังรัตตะนัง สังฆังรัตตะนัง

นะผูก โมมัด พุทรัด ธารึง ยะวิกรึงคะเร  โอม สวาหะ สวาหะ สวาหะ

วิชาครูธรรมพระฤาษีมุนีนวโกฏิ์

            โอมนะมะพยัคฆะพุทธาโกนาคะมะเทยยะวา  เทยยะวา ปะเลยยะวา  ปะเลยยะวา ภูภิภะวา พาชะเนเพชะนา มุขัง ปะวะรังคะยา อาทายะ

            อิติปิโส ภควาวาติ ( ๙ )

            อะสังวิสุโลปุสะพุภะ (๙)

            นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา (๙)

            *อิสวาสุ พุทโธ อิสวาสุ ธัมโม อิสวาสุ สังโฆ นมัสสิตะวา อิสีสิทธิโลกะนาถัง อนุตตะรัง อิสีจะพันธะนัง สาตราอะหัง วันทามิตัง อิสีสิทธิเวสะ ฤ ฤา ฦ ฦา 

            *นะมะนะอะนะอุ   นะมะนะอะนะอุ   นะมะนะอะนะอุ

            ด้วยเดชเดชะ ข้าพเจ้าขออัญเชิญ ฤาษีอันมีฤทธิ์ทั้งหลาย มีพระฤาษีนารอด  พระฤาษีนาลัย ฤาษีตาวัว  พระฤาษีตาไฟ  พระฤาษีกะไลยโกฏิ์  พระฤาษีกัสสะปะ  พระฤาษีไตรภพ พระฤาษีทัสมงคล พระฤาษีเพชรฉลูกัญ  พระฤาษีพรหมา  พระฤาษีพ่อแก่ พระฤาษีภุโฌงค์นาคราช  พระฤาษี ๑๐๘  พระฤาษี ๘๐,๐๐๐ ตน  พระฤาษีคำพลอย  พระฤาษีคำแพง  พระฤาษีสัตตะบส  พระฤาษีสัตตะบรรณ  พระฤาษีมุนีดาบส  พระฤาษีมหาฤาษี พระฤาษีมั่น ศรีจัน  พระฤาษีศรีไชย  พระฤาษีสุเมธดาบส พระฤาษีปัญจฤาษี พระฤาษีพุทธมงคล  พระฤาษีอิสิงหดาบส  พระฤาษีหน้าวัว  พระฤาษีโคดม  พระฤาษีภริทวาร พระฤาษีวิศวามิตร  พระฤาษีชมทิศนี (ชมมิทอัคคี)  พระฤาษีวิสิกรุ  พระฤาษีกศยป (กัด-สะ-หยบ)  พระฤาษี มรีจิ  พระฤาษีอัตริ พระฤาษีอังคีรส  พระฤาษีปุจหะ 
พระฤาษี กระตุ พระฤาษีปุจลัสตะยะ พระฤาษีวิสิษฐิ  บรมครูฤๅษีโคตรบุตร  บรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจ พระฤๅษีอิสิกัลโลยะกะ  พระฤๅษีพรหมประทาน พระฤๅษีสิงหล พระฤาษีอิศวรเจ้า พระฤๅษีประศุรามมุนี  พระฤๅษีพิฆเณศ พระฤาษีลิงดำ พระฤาษีลิงขาว  พระฤาษีลิงแดง พระฤาษีปู่เจ้าเขาเขียว พระฤาษีปู่เจ้าประสิทธิ  พระฤาษีปู่เจ้าสมิงพราย  พระฤาษีปู่สิงสมิงพราย พระฤาษีนาคาราช พระฤาษีอินทรา  พระฤาษีหน้าขาว  พระฤาษีพิราพเจ้า 

            ณ กาลบัดนี้ข้าพเจ้าขออัญเชิญมาสู่สถาน อันเป็นมงคลที่นี้ ข้าพเจ้าจะทำพลีกรรมสิ่งใดที่ผิดพลาดข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใดจะประสิทธิแก่ข้าพเจ้าทุกอย่างทุกประการทุกเมื่อเทอญ ปสิสะประสิทธิเม  ฤ ฤา ฦ ฦา ประสิทธิเม

            *อิติอักขรา นามะโหติ เอหิ พันธัง พันธัง จิเรรุนิ อิสะเยนะ วิกรึงคะเร จิเจตะสา มหามันตัง

            *ตังเมสะทีโก มังสุเรโส อะปะนาปะสุสุปิ อะทะสิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค  นะมามิหัง

            * นะมะนะอะ   นอกอนะกะ  กอออนะอะ  นะอะกะอัง

นะอังมะกะ นะอะอะนะ นะอะกอนอ นะออกะกะ

นะกะอังกะ  นะออกะนะ นะอออะกอ  อะอะนะนอ

นะกอกอนะ   อะอะกะอะ  อะกออออะ  กะนอนะนะ

            *นะมะนะอะ  นอกอนะกะ  กอออนออะ  นะอะกะอัง

อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง อสุนะอะ

            *กาละกัญชา มหาภิสมา โสฬสะ   มังคะคัญเจวะ นะวะโลกุตตะระ ธัมมะตา

จัตตาโร  จะมะหาทีปา  ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏกธัมมะขันธา  ฉะกามาวะจะราตะถา

ปัจจะทัสสะภะเวสัจจังทะสะมังสิละเมวะจะ  เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฏิหารัญจะทะวาทัสสะ

เอกะเมรุจะสุราอัฏฐะทะเวจันทังสุริยังสัคคา  สัตตะโพชฌังคาเจวะจุททัสสะจักกะวัตติจะ

เอกระทะสะวิษณุราชาสัพเพเทวาสะมาคะตา  มังรักขันตุสัพพะทาเอเตนะมังคะละเตเชนะ

สัพพะโสตถี ภะวันตุเม

           

             *อิติ ปาระมิตตาติงสา   อิติ  สัพพัญญูมาคะตา  

อิติ  โพธิมนุปปัตโต     อิติ  ปิโสจะเตนะโม

อรหัง สุคะโต ภควา สัมมาสัมพุทโธ

            *นะอุอะมะ  อุมะอะนะ  นะอุมะอะ

มะอุนะอะ  อะนะอุมะ  นะอุมะอะ

มะอุนะอะ  อะนะมะอุ   อุนะมะอะ ( ๓ )

            *นะอุนะอะนะมะ  มะนะมะอุมะอะ  อะนะมะอะอุ   อุมะ อุนะ อุอะ   ( ๓ )

            *มะนะอะนะอุนะ  อะอุนะมะนะอุนะ  ( ๓ )

            *อะนะมะอะอุ  อุนะอุมะอุอะ   นะอุนะอะนะมะ  อุอะอุนะอุมะ (๓)

            *นะมะนะอะอุ  อะอุนะมะอะอุ  อะอุมะนะ นะมะอุอุ

พุทธะนิมนต์  ธัมมะนิมนต์   สังฆะนิมนต์  นิมนต์ ๆๆ  นิมนต์ๆๆ สาธุๆๆ  พุทโธๆๆ โธๆๆๆๆๆ....................

คาถาผูกมนต์มิให้หนี

*อิติอักขรา นามะโหติ เอหิ พันธัง พันธัง จิเรรุนิ อิสะเยนะ วิกรึงคะเร จิเจตะสา มหามันตัง พุทธังรัตตะนัง ธัมมังรัตตะนัง สังฆังรัตตะนัง

นะผูก โมมัด พุทรัด ธารึง ยะวิกรึงคะเร  โอม สวาหะ สวาหะ สวาหะ

คำไหว้ครูและปฏิญาณตน

            โอมสิทธิ์  โอมทรง   ศิษย์บ่ได้ทรงอาจ   ศิษย์บ่ได้ประมาทครู  เห็นฮอยครู ศิษย์กล้มกราบ   ครูอาบใต้ ศิษย์บ่ได้อาบเหนือ  สิทธิ์นำพ่อก่อนำครู  สาธุ  สาธุ

            อัคคี  พะหูปุพผัง  อะหังคิเนทัตตะวา   อสีติกัปปะโกฏิโย  อภิรูโป  มหาปัญโญ  ธาเรนโต  ปิฏะกัตตะยัง   นิพพานัง  ปะระมัง  สูญญัง  นิพพานัง  ปะระมัง สุขังฯ

วิธีลงยันต์ บทว่าด้วยอาการ 32

   อัตถิ  อิมัสมิง  กาเย   เกสา โลมา  นะขา  ทันตา  ตะโจ    มังสัง   นะหารู   อัฏฐิ  อัฏฐิมิญชัง   วักกัง   หะทะยัง   ยะกะนัง   กิโลมะกัง   ปิหะกัง  ปับผาสัง   อันตัง   อันตะคุณัง                     อุทะริยัง   กะรีสัง   ปิตตัง   เสมหัง  ปุพโพ โลหิตัง   เสโท     เมโท   อัสสุ  วะสา    เขโฬ  สิงฆาณิกา ละสิกา   มุตตัง  มัตถะเก  มัตถะลุงคันติฯ ( 3 จบ)

*อจิจังวะตะยังกาโย ปะฐะวิง อธิเสสะติ ฉุทโธ อะเปตวิญญาโน นิรัตถัง วะกะลิงคะรังฯ  ( 3 จบ )

บทเรียกสูตรยันต์

วิธีลงยันต์

สูตรลงยันต์กลม

ยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร

สูตรลงยันต์สามเหลี่ยม

ติยันตัง  สันตัง  วิกรึงคะเร

สูตรลงยันต์สี่เหลี่ยม

จตุยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร

สูตรลงเส้นกระดูกยันต์

อัฏฐิ    ยันตัง  สันตัง             วิกรึงคะเร

สูตรขะมวดมุมยันต์

จะตุโกณจามหายันตัง  วิกรึงคะเร  พรหมะภักสะมะเหสุรัง ยันตัง สันตัง วิกรึงคะเรฯ

บทเรียกสูตรยันต์

       โอม จะตุโกณจา  มหายันตัง  วิกรึงคะเร  ทุติยัมปิ  จะตุโกณจา  มหายันตัง  วิกรึงคะเร  ตะติยัมปิ  จตุโกณจา  มหายันตัง  วิกรึงคะเร

       โอม   จะตุโกณจา อักขะรังสันตัง  วิกรึงคะเร  ทุติยัมปิ  จะตุโกณจา  อักขะรังสันตัง  วิกรึงคะเร  ตะติยัมปิ  จตุโกณจา  อักขะรังสันตัง  วิกรึงคะเร

       โอม   จะตุโกณจา  คาถาสันตัง  วิกรึงคะเร  ทุติยัมปิ  จะตุโกณจา  คาถาสันตัง            วิกรึงคะเร  ตะติยัมปิ  จตุโกณจา  คาถาสันตัง  วิกรึงคะเร

            โอม จะตุโกณจา  เลขะยันตัง  วิกรึงคะเร  ทุติยัมปิ  จะตุโกณจา  เลขะยันตัง                       วิกรึงคะเร  ตะติยัมปิ  จตุโกณจา  เลขะยันตัง  วิกรึงคะเร

คาถาปลุกใช้ล้านช่อง

อิทธิพีชา จะมหาเถโร อิทธังปูเชมิ ระหะสังปัญญะโต  อิทธาปาระมี  อิทธิริทธี นะมามิหัง     

อุณาโลม

อุณาโลมา ปะนะชายะเต

จงมาบังเกิดเป็น นะ นะกาโร โหติ สัมภะโว

จงมาบังเกิดเป็น มะ มะกาโร โหติ สัมภะโว

จงมาบังเกิดเป็น อะ อะกาโร โหติ สัมภะโว

จงมาบังเกิดเป็น  อุ  อุกาโร โหติ สัมภะโว

ประสิทธิคาถา

     โองการพินธุนาถัง  อุปปันนัง  นามังอาทิกัปเป  สุอาคะโต  ปัญจะปะทุมัง ทิสสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนังฯ

      สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโย นิจจัง สิทธิลาโภ        นิรันตะรัง สัพพะกัมมังประสิทธิเม สัพพะสิทธิ ภะวันตะเม ฯ ( 7 จบ)

      สัพพะเสน่หา จะ ปูชิโต สัพพะโกธาวินาสสันตุ อะเสสะโต เมตตา กรุณาการุณยัง   ทะยาวิสาโส ปิยามะนาโป เมสัพพะฯ

พระคาถาบูชาพระฤๅษีอิศวรเจ้า

โอม นะมัสสะ ศิวะ โอมนะมัสสะ กาเม ประเมอิศวร วันทามิ สะระนัง ติโลกาตะรัง มุนิเทวา มหามุนิเทวา วันทะนัง สัพพะกิม ประสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมะนุปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม สิทธิเมอิติประมะติงสา อิติ

 สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิวาจัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโชชะโยนิญจัง สิทธิลาโภนิรัญตะรัง สัพพะกัมมังประสิทธิเม สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม...          (ว่า ๙ จบ )

คาถาปลุก

            โอมคะลุกๆ กูสิปลุกทั้งนะ  กูสิปลุกทั้งโม  กูสิปลุกทั้งอิติปิโส  นะโมพุทธายะ  อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ  สังวิธาปุกะยะปะ  อะสงวิสุโลปุสะพุภะฯ

(ว่า ๓-๗ จบ )

คาถาสูบมนต์

            โอมสูบๆ  กูสิสูบเอาพิษรูปอยู่ในตน  กูสิสูปเอาพิษมนต์อยู่ในปาก   กูสิสูบเอาพญานาคคอคำ  กูสิสูบให้มนต์กูเข็ดกูยัมยิ่งกว่าไฟเดือนห้า  กูสิสูบให้มนต์กูกล้า  ปานฟ้าแลนถือกัน  โอมสะหมสูบฯ      

(ว่า ๓-๗ จบ )

คาถากระแจมนต์

โอมะกระแจ  กระแจทองสายฮอง กระแจแก้ว  ผู้ข้าจ่มแล้วสิใส่กระแจมนต์

  โอมสะหมติด          

                        (ว่า ๓-๗ จบ  สูบลมเข้าปากแล้วกลืนน้ำลายสามที )

คาถาเพิ่มปราณี เพิ่มทรัพย์ เพิ่มบารมี

อะมะตัง เปยยะ ปะริวารายะ เอหิ สะถายะสุขะ สัมปัตติ สิทธิยา

สัพพะทา  วันทิตะวา สุขะมาโน ภะวันตุเม

ทะสะ ทิสา ภาวะนา ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา ปัญญา ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา ปาระมี ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา ลาภะ ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา โชคะมานัง ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา ธะนะ ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา มหาลาโภ ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา มหาเศรษฐี ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา มหาชะนัง ณะภันตุเม

ทะสะ ทิสา อาราธนัง ณะภันตุเม

โหติ ทุกข์ โศก โรครัย วินัสสันติ ลาภะปารมี พามามะมัง ภะวันตุเมฯ

คาถาปลกเสกรอยสัก

    อิติปิโสภะคะวา  อะภินิหาระ  ปาระมิ  สัมปันโน  มหากะรุณา  มหาปัญญา  อธิฐานะ  อิทธิมะโน  มหิทธิจิตตะ  ทิพพะจักขุภาวะนา  อิทธิปาทะปัญญา พะละญาณะ  อาราธะนา จะสัทธัง อิทธิพะลัง  อิทธิจิตตัง  โสปิติอิ  นะโมพุทธายะ  นะมะพะธะ  จะภะกะสะ       นะมะนะอะ  สัมมาทะสะ  อะระหัง พุทโธฯ         

( ใช้ปลุกเสกรอยสักหรือวัตุถมงคลต่างๆ )

คาถปลุกของ

            โอมพระศุกร์กูจะปลุกพระสำแดงพระนารายแสงเธอจึงปลุกมนต์แลปลุกยา   ปลุกทั้งพระคาถาแลเลขยันต์  ปลุกขอรายเป็นวันนั้น  ปลุกทั้งพระจันกลางคืน  ปลุกทั้งบ้านเรือนแลป่าช้า ปลุกทั้งลูกสะบ้าแลเขาควาย ปลุกทั้งรูปที่ตายแลให้เป็น กูจะปลุกกูจะปลุก ทั้งเอ็นแลกระดูกขอให้ถูกมนต์กูนี้  โอมปลุก มหาปลุก  สวาหะฯ

คาถาวันโลกดับ

สุสุสุ ละละละ ทาทาทา    โออัสสะอะอะอะ โสโสโส โนโนโน

นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ     มะอะอุ อุอะมะ   นะมะสัจจัง มะราตะมะมะ

ระสะมะยัง หิริโอตัปปะ สัมปันนา    สุกกะธัมมะสะมาหิตา สันโต

สัปปุริสา โลเก เทวะธัมมาติ วุจจะเรติ    มาระสัจจัง มาระสัจจัง มารัตตะนัง

มาระสุทธัง มาระเตชัง มาระสิทธิกัมมัง    ทิตะทิรา มันทะโล กะสิลา

กะละลาสะติ โสจะถิโหคะนะตะ   เนพุทธะเยจะมังมาพิโธ ทานะโส ปัตตะโส

สัตถาคารังโช โสอะจะนัง ตะโตกันนัง   เถริยะมาเห มะระกะตา มาระกะตะเล

ระวะชาตา ปุระปุรา

ฉบับย่อ
ทิตะทิรา มันทะโล กะสิลา   กะละลาสะติ โสจะถิโหคะนะตะเน

ฉบับย่อ ของครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ
หลวงพ่อลี วัดอโศการาม
ทิตะทิลาทัน มันทะโล กะลิกะลา สะติโถคะหะตะเน
หลวงพ่อโอภาสี
ถิตะถิรามันทะโร กะสีราคะ ระราสะติโสจะ
หลวงปู่ขาว อนาลโย
ทิตะศีลาคันธะมังกะโร กะระกะรา สาสะติ โสตะถิโหคะหะคะเน

คาถากันเสนียด

            พุทธัสสะ อิทธิ พุทธัสสะ พุทธะนิมิตตัง จิตตัง อิทธิ สัมพุท พุทโธ เอโก กายัง สูญญะพุทโธ กะยะธูปะ สูญยัง เอกัตตะ คะตานัง พุทธะนิมิต อิทธิสัมมาสัมพุท พุทธา อิทธิ สิทธิ คะนะวา พุทพุทโธ สิทธิ จิตตัง นิมิตตังพุทโธ พุทธะนิมิตตัง ทิสสวานะตัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ ฯ

คาถาอิทธิฤทธิ์

            *นะโมพุทธายะ นะรานะระหิตัง เทวัง นะระเทวหิ ปูชิตัง นะรานัง กามะปังเกหิ นะมามิ สุคะตังชินัง กะยะพุตังฯ 

            *อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโลถินัง ปิสัมระโร ปุริสัตพุท โสมานะกะริถาโธ ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปันธทูทัมวะคะวาโธโน อะมะมะวา อะวิชสุนุตสานุสติฯ

*อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิฯ

*อิติปาระมิตาตังสา อิติสัพพัญญู มาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม

บทป้องกันภัย เทพคุ้มภัย

            อิติ โมนะเต มนุสสา นะปัตโต สะระณัง ภะคะวาโพธิ อิติ มะนุปปัตโต อิติ สัพพัญญู มะคะตา ปาระมิตา อินทา พรหมา เทวะตา ปัสสะโต โหตุปัต นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ นมพท จภกส มะอะอุ ภะคะวา อะระหัง พุทโธฯ

*นะโมพุทธายะ นมพท จภกส อิสวาสุ สุสวาอิ พรหมา อินทรา นารายณ์ อิสราฯ

บทขอลาภ

            ปุญญะลาภัง มหาเตชัง วัณณะกิตติ มหายะสัง สัพพะหิตัง ชาตัง ตังสุณันตุ อะเสสะโต อัตตัปปะระหิตัง ชาตัง ปะริตตันตัม ภณามะเห ฯ ( 7 จบ)

คาถามหาวิเศษ

         นโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ มะอะอุ อิสวาสุ อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ สังวิธาปุกะยะปะ สะทะวิปิปะสะอุ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะ อัง อิติอะระหังพุทธังสรณังคัจฉามิ อิติอะระหังธัมมังสะระณังคัจฉามิ  อิติอะระหังสังฆัง สะระณังคัจฉามิ ติติอุนิ จิเจรุนิจิตตัง เจตะสิกัง รูปังนิพพานัง นามะรูปังทุกขัง นามะรูปังอนิจจัง นามะรูปังอนัตตา อะยังอัตตะพาโว อสุจิ  อสุภัง  อะระหัง                   หะรินังหัคคะตา สัมมาสัมพุทโธ พุทธสังมิ มังคะลังโวเจติ อิติอะระหัง อะระหังพุทโธ     นโมพุทธายะ

คาถามหาวิเศษ

พุทธา อะนุนามะริยา สุขังเขยเย    พุทธา อะนินาสุหะลา ลิสังเขยเย
พุทธา ริโยเคมะกุลัก ขะกัปปะเก    วันทา มิเตสุระนะรัก กะเมสะเม

คาถามหาวิเศษ หรือ คาถาแคล้วคลาด ภาวนาชักลูกประคำมีอานิสงค์มาก กันและแก้คุณไสยทั้งปวง กันโจร ขโมย ภูตผี ปีศาจ เสกข้าวกิน ๓ ปี เผาไฟไม่ไหม้ จะสักหรือจะลงตะกรุด-ผ้าประเจียด ได้ทุกประการ เสกดอกไม้ทัดหูเป็รมหานิยม เสกใบไม้ปรายขวางทางศัตรูตามมิทัน เสกข้าวสารซัดไฟไหม้ดับแล บทนี้ถาวนาให้มั่นทำให้ตัวสูงใหญ่ได้ ภาวนาเป็นจังงัง ให้เอาลิ้นดุนเพดานจึงภาวนา ปัดพิษตะขาบ แมลงป่องก็ได้ ถาวนา ๓-๙ คาบแล

คาถาครอบ

            ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณัง คะโต อิมินา สักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ

ทุติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณัง คะโต อิมินา สักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ

ตติยัมปิ ยะมะหังครูอาจาริยัง สะระณัง คะโต อิมินา สักกาเรนะ ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ

     โอม  กูจะครอบฟ้าแลแผ่นดิน  กูจะครอบพระสมุทร แลสายสินธิ์   กูจะครอบพระอินทร์และพระพรหม  กูจะครอบพระยมและพระกาฬ  กูจะครอบท้าวจะตุโลกะบาลทั้ง 4   กูจะครบทั้งตัวกู  กูเป็นลูกปู่เจ้าสมิงไพร  ครูกูจึงจะใช้ให้กูเรียกคุณมนต์มงคลแลจ่ามนต์แลพระยามนต์  อย่าได้ไปจากตนกูโอมประสิทธิแก่กูสะวาหะ     

(ว่า ๓-๗  ๙   ๑๐๘  จบ   ใช้ครอบคาถาไม่ให้เสื่อมสูญไป  ใช้รดน้ำมนต์ก็ได้  ใครมีของดีเรียกเอาไปจากเรามิได้แล )

พระคาถาสรรเสริญพระพุทธคุณ

            อิติปิโส ภควา มือข้าพเจ้าสิบนิ้ว ยกขึ้นเหนือคิ้ว ประนมนมัสการ ข้าจะลึก สรรเสริญถึง คุณพระบิดา 21 คุณพระมารดา 12 คุณนางพระโพสพ 19 คุณพระพุทธเจ้า 56 คุณพระธรรมเจ้า 38 คุณพระสังฆเจ้า 14 คุณพระอาจารย์ 30 ทัด คุณพระกรรมวาจา คุณพระอุปัชฌาย์ คุณพระกรรมฐาน คุณนางพระแม่ธรณี 21 คุณนางพระแม่คงคา 12 คุณพระเพลิง 4 คุณพระนาราย 6 คุณอักษร 41 คุณอักขระ 33 คุณอัสสาสปัสสาส คุณมิสสวาส คุณดวงแก้ว 3 ประการ คุณศีล 5 คุณศีล 8 คุณศีล 10  คุณศีล 227 คุณปัญญาญานพระโสดา คุณพระสกิทาคา คุณพระอนาคามี คุณพระอรหัน คุรมรรค 4 คุณผล 4  คุณพระนิพาน 1 จึงมาเป็น 9 คุณพระนวโลกุตตะระธรรมเจ้า ขอเดชะข้าได้เล่าเรียน ศิลปะศาสตร์ วิชาการอันใด ๆ ขอให้ประสิทธิ์ คุณพระอาทิตย์ 6 คุณพระจันทร์ 15 คุณพระอังคาร 8 คุณพระพุท 17 คุณพระเสาร์ 10 คุณพระพฤหัสบดี 19 คุณพระราหู 12 คุณพระศุกร์ 2 คุณพระเกตุ 9 คุณเท้าเวสสุวรรณอันรุ่งเรืองเดช คุณพระนเรศน์ คุณพระนารายณ์ คุณพระอินทร์ คุณพระพรหม คุณพระยมคุณพระกาฬ คุณเท้าจตุโลกบาลทั้ง 4 คุณพระมาตุลี คุณพระภูมิเจ้าที่ และเจ้ากรุงพาลี เป็นที่เคารพแก่ฝูงชนที่มาสร้าง กุศลพระบารมี ขอให้จำเริญสวัสดี คุณศีลคุณทาน คุณสัจจะ คุณวิริยะ คุณขันติบารมี คุณพระพรหมวิหาร 4 เป็นที่เมตตา กรุณา อุเบกขา คุณพระคาถาแลเลขยันต์ ตระกรุดพิศมร ประเจียด แลมงคลคุณทั้ง 84000 พระธรรมขันธ์ จบพระไตรปิฏก คุณพระศรีรัตนตรัย คุณพระธาตุกถา คุณพระสถูปเจดีย์ คุณพระศรีมหาโพธิ์ อันรุ่งโรจน์ชัชวาล คุณพระพรหมวิหาร ทั้ง 7 แสน จักวาลโดยคณนา คุณพระพุทธอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเจ้า  คุณพระพุทธะอะระหังสัมมาศาสดาเจ้า    คุณพระพุทธะศรีศากยมุนีโคดมบรมครูเจ้า พระเจ้าทั้งยี่สิบแปดพระองค์   ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง  คุณพระโมคคัลลานะ  คุณพระสารีบุตร คุณพระอุปคุตเถระ คุณพระควัมบดี คุณพระอุตตะระ คุณพระสิวลี คุณพระอิสีติมหาอสีติเถะเจ้า คุณพระอริยเจ้า คุณพระตรีนิสิงเห เดชะคุณทั้งผองจงมาป้องกันอันตรายมิให้มาย่ำยี คุณพระฤาษีนารอด คุณพระฤาษีนาลัย คุณพระฤาษีตาวัว คุณพระฤาษีตาไฟ คุณพระฤาษีกะไลยโกฏิ คุณพระฤาษีกัสปะ คุณพระฤาษีไตรภพ คุณพระฤาษีทัศมงคล คุณพระฤาษีอสิงหาดาบส คุณพระฤาษีพุทธะมงคล คุณพระฤาษีเพ็ชฉลูกัญ คุณพระฤาษีมั่นศรีจันทรา

คุณพระฤาษีศิวะสังกรเจ้า คุณพระฤาษี 108 ตน คุณพระฤาษี 80000 ตน คุณพระฤาษีมหาฤาษี มุนี มหาฤาษี คุณพระฤาษี สมมุติ คุณพระฤาษีผู้ทรงฤทธา คุณพระมหากษัตริย์ตราอันประเสริฐสุด คุณพระพุทธเจ้าทั้ง 9 แสนจักรวาลขออย่าได้มีมารมาประจัญ เดชะพระกุศลที่ข้าพเจ้าได้รำลึกถึงคุณพระพุทธะคุณณัง พระธัมมะคุณณัง พระสังฆะคุณณัง ศัตรูปาปังวินาสสันติ

อินทะสาวัง มหาอินทะสาวัง พรหมมะสาวัง มหาพรหมมะสาวัง จักกะวัตติสาวัง มหาจักกะวัตติสาวัง เทวาสาวัง มหาเทวาสาวัง อิสีสาวัง มหาอิสีสาวัง มุนีสาวัง มหามุนีสาวัง สัปปุริสะสาวัง มหาสัปปุริสะสาวัง พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิวิชชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกาอิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
สาวังคุณัง วะชะพะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิกัมมัง ธัมมังสัจจัง นิพพานัง โมกขัง คุยหะกัง ทานัง สีลัง ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ยะสัง ตัปปัง สุขัง สิริรูปัง จะตุวีสะติเทสะนัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สวาหายะ ฯ

สิทธิกจจัง  สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต  สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง  สิทธพุทธัง  สิทธิธังมัง  สิทธิสังฆัง  สารพัดสิทธิ ภะวันตุเม  ฯ

คาถาลาเครื่องสังเวย

เสสังมังคะลังยาจามิ

ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบความสุขความเจริญ สมความปรารถนาทุกประการ เทอญฯ

คาถาส่งครูเสด็จกลับวิมาน

เยสุปเปยุตตา นะมะสา ทันเหฯ

ขออัญเชิญครูบาอาจารย์เสด็จกลับวิมานสถานของท่าน โดยสวัสดิภาพ เทอญฯ

คาถาบูชาพระเจ้า

นะโมพุทธายะ

ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง ฯ

            สัมพุทโธ  ทิปะทัง  เสฏโฐ              นิสินโน  เจ  วะ  มัชฌิเม

โกณฑัญโญ  ปุพพะภาเค  จะ                     อาคเณยเย  จะ  กัสสะโป

สารีปุตโต  จะ  ทักขิเณ                                หะระติเย  อุปาลี  จะ

ปัจฉิเมปิ  จะ  อานันโท                    พายัพเพ  จะ  ควัมปะติ

โมคคัลลาโน  จะ  อุตตะเร              อีสาเนปิ  จะ  ราหุโล

อิเม  โข  มังคะลา  พุทธา                 สัพเพ  อิธะ  ปะติฏฐิตา

วันทิตา  เต  จะ  อัมเหหิ                   สักกาเรหิ  จะ  ปูชิตา

เอเตสัง  อานุภา  เวนะ                                 สัพพะโสตถี  ภะวันตุโน

                        อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง

                        นะมัสสะมาโน  ระตะนัตตะยังยัง

                        ปัญญาภิสันทัง  วิปุลัง  อะลัตถัง

                        ตัสสานุภาเวนะ  หะตันตะราโย

อ้อมกรกวีก

            โอมระอิระออน    ให้เสียงกูอ่อนเข้าใจ   ให้เสียงกูใสเหมือนดั่งเสียงนกกรวีกฮ้อง   อยู่เทิงอากาศ  โอมนาทธะนีลวย  โอมละลวย มหาละลวย โอมพะลีสีกา  คาถาลินทอง  โมกอะระอุ ระนานามะ พุทเห็นหน้า ให้ท้าวอ่อนใจลง  อุยินดี  เจวิคังคาสะหะ โอมสิทธิบัง กูจะบังทังตับแดงนอก กูจะบังทังปอดแดงใน กูจะบังทังขั้นไดกูขึ้น กูจะบังทังน้ำกูกิน กูจะบังทังดินกูนั่ง กูจะบังทังตั่งหมูนหัว  กูจะบังทังเหล้าแปลงชา กูจะบังทังยาแปลงสูบ   กูจะบังทังไชคาตั้ง   กูจะบังทังดั้งเฮือนแขวน  กูจะบังทังไชคาต่อ  กูจะบังทังป้องหล่อแลเฮือนกวม  กูจะบังทังลูก  กูจะบังทังเมีย  กูจะบังทังเยียข้าวปลูก  โอมสหมผูก  โอมศีลมาอัดตุระกัง  โอมสหมติด อัคคะรม  โอมสหมติด  โอมตังกัง  โอมสหมติด 

            มนต์บทนี้    เรียกอ้อกรวีก    ใช้สำหลับนักเทศน์   นักร้องลำทำเพลง  ดีดสี  ตีเป่า  เป็นเมตตานิยมและป้องกัน  ให้เสกมนต์นี้ก่อน  ๓  หรือ  ๗  จบ  เมื่อจะไปเจรจาจะมีคนรักใคร่พอใจ

ให้ยกครูวันอังคาร  คายขัน   ๕    ขัน    ๘    เหล้าก้องไข่หน่วย  ซิ่นผืนแพรวา   เงิน  ๑  บาท  ซวย   ๔   เทียนเล่มบาทหนึ่งคู่   ถ้าจะทำเป็นนวดสี   ให้ใช้ขี้ผึ้งฮ้างฮัง   น้ำมันใช้น้ำมันงา  หญิงสาวพรหมจารีเป็นคนจิกให้  หุงวังอังคารที่ตีนโพน   เวลาสีนวดให้สีลิมฝีปากข้างบนลงมา   ห้ามเอาสีซ้ำ  แล้วทาคิ้วทาผมอีก  เวลาสีนวดแล้ว  ห้ามมิให้พูดจากับเมียเขา  ของคะลำ   (ห้าม)   ไม่ให้ทำ  คือห้ามไม่ให้ศิษย์ให้คนจนกว่าจะเลยสามปี   ห้ามข้ามด้ามเสียม  ห้ามเอาไม่คานรองนั่ง  ห้ามรอดเครือกล้วย   ห้ามไม่ให้กินซากสัตว์ และสัตว์ตายห่า  ห้ามถือไปขี้ไปเยี่ยว  ห้ามไม่ให้ผู้หญิงจับตินวด   ถ้าคะลำไม่ได้   จะไม่ดีแล 

อ้อเว้า

            พุทธสะหับจับ   ธัมมะสะหับจับ    สังฆสะหับจับ   อุอ้อ  อะอ้อ  อ้อน้อย  อ้อหลวง  อ้อควง  อ้อเค้า   สามสิบพญาอ้อให้มาช่วยเว้าช่วยจา  ช่อยจ่ายผญาปัญญาให้เข้าข้อ  อ้อแอ้ให้แพ้เพิ่นทังหลายอย่าให้กลายปัญญาเฮาได้  ให้ท่านได้กับเกิดปิฎก  จตุราสีติสหัสสา   ให้ท่านน้อมหัวมาไหว้  ตนท่านไท้พญาอ้อราชา  กาโยอันคำพญาปัญญา  ให้แก้ได้  แต่ตนผู้ข้าให้หาญ  โอมเสบช้าง  ผีแสนสามท่า  โอมช้างป่าสามพัง  สามพาย  ช้างงาลายกูชิเอามาย้อง  ช้างงาป้องกูชิย่องนำขุน  ขุนเห็นกูแลวันแล  ๗  ที่  ขุน  ก็เลยอ้าปากลืมกลืนน้ำลาย  โอมผูกนั่นอุ้มซิ่นแล่นมาหากูเนอ    โอมผูกนั่นอุ้มซื่นแล่นมาสู่กูเนอนางเนอ  ผู้สาวอยู่บ่ได้อุ้มซิ่นแล่นมาหากู  โอมสหมติด   โอมสีสวด  ใส่นวดสาวขาว  สาวเห็นกูเหมือนดั่งเห็นพรหม  ขุนชมกูเหมือนดั่งทองเดือนห้า  ใต้ลุ่มฟ้าเขาว่ากูดี   โอมผูกนั้น  (ต่อเหมือนบทต้น) 

            มนต์บทนี้ยกครูวันอังคาร     ขัน    ๕     ขัน    ๘     ขันหมากเบ็ง ซ้าย ขวา    เงิน   ๖  สลึง  เหล้าก้อง  ไข่หน่วย  ซิ่นผืนแพรวา  ถ้าจะทำเป็นนวดสี  ให้หุงตรงบือสิม  เสก   ๓   หรือ  ๗   จบมีผญาปัญญาดี  จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน พูดจาฉลาดหลักแหลม    เป็นทั้งมหาเสน่ห์  มหานิยม เจริญทุกค่ำเช้าวันคืนดีนักแล 

อ้อป่อง

            มนต์บทนี้ ให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ เงิน ๖ สลึง เสก ๓ หรือ ๗ จบ ใส่น้ำหรืออาหารกินป่องแลอนึ่งถ้าต้องการเห็นสิ่งใด ให้เสกมนตน์บทนี้แล้วตั้งจิตอธิฐาน จะเห็นสิ่งที่เราต้องแล

            สาธุ สาธุ สาธุ ผู้ข้าจักไหว้พระบท ผู้ข้าจักไหว้พระบาท ผู้ข้าจักไหว้พระธาตุเจดีย์ ผู้ข้าจักไหว้พระศรีมหาโพธิ์ ผู้ข้าจักไหว้พระเจ้าล้านโกฏิอสงขัยขอให้หัวใจผู้ข้านี้ป่อง ๆ ส่องเห็นยอดพุทโธ นโม เป็นเค้าพระเจ้าแห่งเฮา

อ้อเว้าสาว

            โอมมีดน้อยปาดแพ มีดแปปาดหมาก หมากอยู่ใต้กันพลู พลูจวงจันทร์ลำค้าง เสกใส่ช้าง ๆ ก็เล่าเฮฮน เสกใส่คนๆก็เล่าฮ้องไห่ เสกใส่นางนาถไท้ ฮ้องไห่แล่นมาหากู โอมสหมติด โอมสามสิบข้วมท่งให้สาวแล่นมาหากูเนอ โอมสามสิบข้วมท่งนา ให้สาวแล่นมาสู่กูเนอ โอมสหมติด โอมโสเหล่ มหาโสเหล่

           

            มนต์บทนี้ ให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ เหล้า ก้อง ไข่หน่วย ซวย ๔ เงิน ๖ สลึงเสก ๓ หรือ ๗ จบ เว้า สาวเขาจะรักและต้องการเรา บางรายถึงกับต้องยาดแย่งเราแล

อ้อพระอานนท์

            โอมสีใส่ส่อง อ้อป่องหัวใจ ขอให้ปัญญาไวผ่องแผ้ว เหมือนดั่งศิษย์แก้วตนชื่ออานนท์ ในเมืองคนบ่มีใผแผ้ว อ้อมัดจิต อ้อมัดใจ อ้อไขหัวใจ ขอให้ปัญญาไวเหมือนดั่งพระเจ้า พระพุทธเจ้ากับพระฤาษี ถือคัมภีร์ ลงมาซาวเก้า มาฮอดแล้วเอิ้นใส่อานนท์ อานนท์เอยฮีบมาอย่าช้า มาอยู่ล้อมสองข้างมัดหัวใจ ส่องวังใสอ้อป่องหัวใจ พระพุทธซ่อยจำ พระธรรมซ่อยจื่อ พุทโธป่อง ธัมโมป่อง สังโฆป่อง ขอให้ส่องหลิงเห็น เหมือนดั่งแสงตาเว็นมันออก โอมสหมติด

            มนต์อ้อพระอานนท์นี้ ให้เรียนหนังสือ เรียนเทศน์ เรียนลำ มีสติปัญญาจดจำได้ดี ให้ยกครูวันอังคาร ตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ คายขัน ๕ ขัน ๘ เงิน ๑๒ สตางค์ ถ้าเป็นพระเรียนอ้อนี้ ห้ามมิให้สึกก่อน ๗ ปี ถ้าจะสึกจะประสบอุปัทวเหตุ เช่นฟ้าผ่า ควายชน เรียน ๓ ปีล่วงแล้วจึงสอนให้คนอื่นได้

อ้อเว้า

            สาธุ สาธุ โอกาสะ ผู้ข้าจักขออัญเชิญ พระอริยเจ้าทั้ง ๕ พระองค์จงเสด็จสะดอนเข้ามาบรรเทาเอาจิตใจอันช้า อันปึกแห่งผู้ข้า ออกไปไว้ ภายนอกขอบจักรวาล โอกาสะ โอกาสะ ผู้ข้าจักขออันเชิญ พระอริยเจ้า จงมาอยู่เหนือขม่อมจอมขวัญแห่งผู้ข้า ขอให้เป็นอันกล้าอันคม ขอให้เป็นนิยมจิตใจแผ่เผ้า ขอให้ทั่วเท่าตรัส ส่องสรญาณแก่ผู้ข้า ขอให้เป็นกรรมโยสา ขอให้เป็นดั่งน้ำอโนมาไหลเข้าท้าง ไหลออกจากปากช้างราชสีห์ ขอให้มีผญาเลิศล้ำ ขอให้เป็นดั่งน้ำมหาสมุทร โอกาสะ โอกาสะ อันหนึ่งผู้ข้าขอสมมา เชิญอ้อช่อทุงฮ้อยเป็นถัน เทียนธูปทันหอมทั่วเท่า เชิญอ้อเจ้าลงมาผู้ข้าจักยอขันดาแต่งไว้ เชิญอ้อไท้องอาจสัพพัญญู ขอให้ผู้ข้าได้โผดสัตว์ในชมภูมนุษย์โลก ให้ข้ามพ้นจากโอฆะสงสาร ให้เขาถึงนีรพาน เป็นที่แล้ว เชิญอ้อแก้วพระโคตรม อ้อหมู่หนึ่งชื่อว่าวิอัง อ้อหมู่หนึ่งชื่อว่ากัดอัง ฝูงหนึ่งจงเสด็จสะดอนเข้ามาอยู่ในตนตัวหังคิงแห่งผู้ข้านี้เทอญ

            มนต์บทนี้เป็นอ้อเว้า ถ้าเสกแล้วคำเว้าไหลมาหลั่งมาเทมา เป็นที่เกรงขามของคนทั่วไป เสกแล้วพูดคุย เทศน์ ร้องลำ ขับร้อง มีสติปัญญา เอาชนะ เขาได้แล ให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ เงิน ๑ บาทเทียนเล่มบาท ๑ คู่เสกน้ำกิน เสกน้ำล้างหน้า เสกอาหารกินให้กิน มีสติปัญญาดี มนต์นี้ห้ามไม่ให้ส่องบ่อน้ำ ลอดเครือกล้วย เครือหมากน้ำเต้า มีกำหนด ๓ ปีถ้าขะลำบ่ได้ฟ้าผ่าแล

อ้อเว้า

            โอมกูจักเชิญอ้อเว้า อ้อเข้าสูญใจ เว้าไปพันมื้อ พระพุทธ พระธรรมจำจื่อ อ้อเว้าให้หลั่งไหลมาฝูงผญาเป็นข้อย เว้าน้อยเป็นหลาย ขุนหมื่นท้าวพญาให้ปลงใจน้อม เว้าแม่นคลองธรรมจึงเว้า อักขระดวงลาด ศาสตร์ดวงบาทหนังสือ ยังมีอาจารย์ปันออกเป็นอ้อ เว้าม่วนเสียงใส่ ผู้ใดได้ยินเขาหนีบ่ได้ ขุนนางเฒ่าแม่พ่อแม่ท้าวพญา จำคำเว้าต้องป่องไป เจ้าพญาราชาสี่ตนประเสริฐเจ้าทั้งหลายมาจำแสนเว้า เข้าค้อมต้องเป็นเมตตาจิต ไปเข้าข้าเจ้าถวายภิกขุ อาจารย์นิคมสอนสั่ง เว้าไปไกลเสียงใสไหลออก จึงบอกชาวเมือง เสนาข้อยได้ผู้ใหญ่ทั้งหลายกลัวตายย้านอ้อ เข้าพร้อมจิตใจ เชิญพญาใดลงมาช่วยเว้า มาเต้ากวานเยอ เชิญเจ้ามโหสถลงมาช่วยเว้าผองเท่าชั่วชีวัง บุญยังเหลือมากอ้าปากไหลมา จิตจะพะไส ไหลมาบ่ขาด อำนาจกูแข็งแฮง ตอนเขาอ่อนเขายอมถวายของ เมื่อมีอ้อเว้าเขาย้านทั้งเมือง เขาเฮืองคุงฟ้า ท้าวหล้าเมืองพรหมเบียนพากตาเสีย ย้านเมียเล่นชู้ อ้อเว้าไปไข จิตจะโอมสหับ

            มนต์บทนี้ เป็นอ้อเว้า ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ซวย ๔ เหล้าก้องไข่หน่วย เงิน ๒ สลึง ห้ามมิให้ด่าหมาสี้แม่ ๓ ปี ถ้าด่าไม่ดีแล

อ้อเรียนหนังสือใหญ่

            *ติกขปัญญา ชนัมหิตวา เมว ชเล ปิฏกัตตยัง โอมปัญญา ชวนปัญโญ พทธาทิสวาหะ

            *สะมะสีสา สะมะปาทา สมันตะรา ปจิตตัง ปรมังจิตตะ ติกขปัญญา สิกขตันติ ปิฏกัตตยัง สาริปุตโต คาถาพันธนัง สวาหม

            *เอหิ ปัญญัง มติจิตตัง ถานัง ฐิโต

            คาถา ๓ บทนี้ เรียกอ้อเรียนหนังสือใหญ่ หนังสือมูลกัจจายน์ฉบับใบลาน เรียกว่าหนังสือใหญ่ ผู้ที่จะเรียนหนังสือนี้จะต้องใช้กำลังกายกำลังใจ จึงจะเรียนสำเร็จท่านให้ยกครูวันพฤหัส คายขัน ๕ เงิน๖ สลึง

อ้อนกกรวีก

            โอมกรวิโก อาอาโอโอ ตนกูนี้จักอ้าปากฮ้องขอให้เสียงดังก้องดังเสียง สักกุณาตนชื่อว่ากรวีก ยามเมื่ออ้าปากฮ้อง เสียงกูก้องทั่วจักรวาล คนทั้งหลายได้ยินเสียง กูให้มีใจอ่อนน้อม กูจักฮ้องใส่ไม้ ไม้กูม่นทลาย  กูจักฮ้องใส่ชาย ชายก็เป็นพ่อฮ้าง กูจักฮ้องใส่ช้าง ช้างก็อ่อนงา กูจักฮ้องใส่ปลา ปลาก็อ่วยเงี่ยง ขอให้เสียงกูนี้ เหมือนดั่งเสียงนกกรวีก ตนจับไม้ชื่อว่าโพธิ์คำ  ยามเมื่อตาวันค่ำเสียงกูแฮงยามเมื่อตาวันแดงเสียงกูก้อง เสียงฟ้ากูก้อง เสียงฟ้าฮ้องก็บ่ท่อเสียงกู ท้าวพญาได้ฟังให้มีใจอ่อนน้อม โอมละลวยมหาละลวย ท้าวพญาได้ฟังให้มีใจ่อ่อนน้อม โอมละลวย มหาละลวย กูจักลวยทั้งจิต ลวยทั้งใจ โอมสหมติด

            มนต์อ้อนกกรวีกนี้ เสกก่อนพูดเป็นเสน่ห์ ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ดอกไม้ขาว ซิ่นผืนแพรวา เหล้าก้อง ไข่หน่วย เงิน ๒ บาท เสกน้ำล้างหน้าแป้งผัดหน้า เสกน้ำมันทาผม เสกนวดเป็นเสน่ห์แก่คนทั้งหลายทั้งปวง ของขะลำสำหรับมนต์นี้ คือไม่ให้ลอดเครือกล้วยไม่ให้ลอดเครือหมากพวง ถ้าคะลำไม่ได้มนต์ไม่ศักดิ์แล

อ้อป่อง

            โอม ปุๆ ทะลุปัญญา พุทธโลกา เอหิ สหุมภูริปัญญา จะ มหาญาณัง อนันตัง จักกะวะรัง ยาวะชีวัง ภวันตุเม โอมสารูป มหาสารูป กูจักสูบเอาความฮู้ในโลกา กูจักสูบเอาพระปัญญา พระวิธูร นะโป่ง โม ปุ พุท ทะลุ ธา หลิงเห็น ยะ คึดออกซอกเห็น เอไอ อักษรบั้นต้น ชื่อพระชาคับ อักษรลับ กับพร้อมบังคับ วัจจะสัง ภะวันตุ เม  นะมะพะธะ เคลื่อนจิต ให้คนฟัง จะภะกะสะ ให้นั่งในกรงหลงลังเล เตชะเสน พระศรีสรรเพชญ์             โอมสีๆ โอมใสๆ ให้สูโป่งไปทั้งกลางวันแลกลางคืน พิสวาทลืมหลง พิศวงหลงใหล พิสมัยแนบเนื้อใจจิต คิดถึงคราวครึ่งวิญาณวิชชาจรณสัมปันโน อิติปิโส ภควา พระพุทธัง คิดเห็น พระธัมมัง คิดเห็น พระสังฆัง คิดเห็น โอม มิมิ หะทะยัง มะมะ

            มนต์อ้อป่องนี้ เป็นของยาถ่านท่านธรรมบาล วัดป่าน้อย จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพระเถระที่คงแก่เรียนเป็นนักปราชญ์แปลอรรถบาลี หาใครในถิ่นอีสานสู้ไม่ได้ท่านให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ขัน ๘ เงินสิบสลึง เหล้าก้อง ไข่หน่วย ซวย ๔ ซิ่นผืน แพรวา เสกวันละ ๓ หรือ ๗ จบ ท่องจำพระคัมภีร์ดีนักแล

นกการะวีก

            โอมการะวีก โอมมหาสัทโทการะวีก ขอให้เสียงผู้ข้าดีเหมือนดั่งนกการะวีก ฮ้องตัวอยู่ในไพรสณฑ์ เดินบินบนแอะแอ่น ตัวผู้แลตัวเมียปากเกลี้ยงเสียงหวาน ฝูงสาวฮามแลหนุ่มน้อย เอาใจพี่ไม่เสียงก้องฮ้องใส่ ก็ทะยานะเวหา ลีนคนเทิงฟ้า โอมสหมติด

            มนต์อ้อการะวีกนี้ ใช้ในเวลาไปร้องรำทำเพลงดีดสีตีเป่า โต้วาที แสดงปาฐกถา หรือไปพูดคุยกับคนที่เราชอบใจ ให้เสก ๓ หรือ ๗ จบ เป็นเสน่ห์ปากมีคนนิยมชมชอบ ท่านให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ขัน ๘ เงิน ๖ บาท

อ้อนกกาเวา

            โอมโภนโต นกกาเวาปากเกลี้ยง ฮ้องกะกล่าวเสียงหวาน อยู่ในป่าหิมพานต์เฮียกฮ่ำ เฮียกใส่ช้าง ๆ ก็แล่นวาวน เฮียกใส่คน ๆก็แล่นมาไหว้เฮียกใส่นางแก่นไท้ ใจลุกดอมกู โอมสัทโทมาสัททัง เสียงกูดั่งราชสีห์ตัวกล้า เทวดาอยู่ฟากฟ้าแปดหมื่นสี่พันองค์ ขอให้มาบันดลหัวใจคน บัณฑิต นักปราชญ์ ทั้งอาจารย์แลข้อยข้าถ้วนหน้าหมู่เศรษฐี ขอให้มายินดีกูอยู่ค้อย ๆ กับทั้งสาวส่ำน้อยฮักขอดหัวใจ เขาได้ยินเสียงกูเหมือนดั่งนกกาเวา ตัวอยู่เทิงจอมเขาสิเนราช โอมสัทโท มหาสัทโท โอมสหมติด

            มนต์อ้อนกกาเวานี้ เสกแล้วมีสติปัญญาดีพูดเก่ง มีคนนิยมชมชอบ เสกแล้วร้องรำทำเพลง ดีดสีตีเป่า จ่ายผญา เป็นชนะเขาแล ท่านให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ขัน ๘ดอกไม้ขาวเงิน ๔ สตางค์ เสก๓ หรือ ๗ จบ

อ้อป่องธรรมบาล

            ผู้ข้าไหว้ยอดแก้วแลเจดีย์ เชิญทั้งเทพพญาศรีอรหันตาผู้เป็นเค้า เจ้าจึงลงมาอยู่ในเมืองฟ้า ให้เจ้าขี่ช้างแก้วกับเกวียนคำ จับจำมองลงมาวีว่อนๆ คิงแจ้งส่องปานคำแดง เชิญเจ้าลงมาลีลาๆ ก้ำขวาให้เจ้าลงมาลีล้ายๆข้อยจักเชิญทั้งเจ้าผู้อยู่แผ่นฟ้าลงมาปั่นปัญญา ลงมาจาตรัสส่องแจ้งใสสี ขอให้ผญาดีดั่งอรหันตาเจ้า คันว่าข้าหากได้ว่า เว้าผญาออกไหลกอง ฟาดๆ ฟองไหลไปทั่วทีป คันว่าข้าหากได้เว้าผญาออกส่วนสน ในเมืองคนบ่มีใผมาต่อได้ คันว่าข้าหากได้สอดไง้ แปลปั่นธรรมไท ข้อให้ผญาไหลสิ่งน้ำบ่แก้ว ไหลแจ้ว ๆ ไหลออกเนืองนอง เป็นสิ่งน้ำสมุทรฟองเนืองคับคั่ง ไหลหลั่งเข้าท้องใหญ่ไหลออกเนืองนอง ฟาดๆ ฟอง ๆ ไหล ไปจีแจ้ว เจ้าแผ่นฟ้ากับแผ่นธรณี เชิญทั้งเจ้าอิตถีผู้มีดีแต่เค้า ลงมาสับปัญญาแก้แม่น แก้ได้แล้วอย่าลืม โอมสหับ

            มนต์อ้อป่องธรรมบาลนี้เป็นมนต์ของยาท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัด อุบลราชธานี ซึ่งเป็นนักปราชญ์ที่เฉลียดฉลาด มีสติปัญญามากสามารถแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆเฉพาะหน้าได้ดี เหมือนกับเชียงเมี่ยง เพราะท่านทั้งสองฉลาดหรือมีอ้อช่วยเหลืออยู่ ก็ไม่อาจเดาและยืนยันได้

            มนต์บทนี้ ท่านให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ดอกไม้ขาว เงิน ๑ บาท เสกน้ำกินกทุกเช้าค่ำ มีสติปัญญาเหมือนดังมโหสถแล

อ้อป่อง

            อ้อทิปัญญา อ้อจาให้ป่อง อ้อส่องหัวใจ ให้เป็นสิ่งน้ำยมนาไหลออก พระเจ้าบอกพระอินทร์ลงมา

โอมสีโสสหับ

            ให้ยกครูวันอังคารคายขัน ๕ ดอกไม้ขาว เงิน ๔ สตางค์ เสก ๓ หรือ ๗ จบ เสกใส่น้ำกินเช้าค่ำ มีสติปัญญา ท่องจำได้ดีนักแล

อ้อเรียนหนังสือใหญ่

            โอมสัพพพุทธสิทธิ สัพพธัมมสิทธิ สัพพสังฆสิทธิ อรหติ ธัมมสิทธิ สัพพาทาระ ภาวะ ธัมมสิทธิ ปัพพตะราชา จักวัตติ มหาราชธัมมสิทธิ เนหิ เนเท สาระวุติ ปัญญา เอหิ สัพพสิปปะภวหุมติด

            มนต์อ้อเรียนหนังสือใหญ่นี้ เป็นหนังสือมูลกัจกายน์ เรียกหนังสือใหญ่ซึ่งพระภิกษุที่จะเรียนสำเร็จจะต้องมีใจใหญ่ มีสติปัญญาดี และมีร่างกายแข็งแรง ถ้าเป็นคนขี้โรคไม่สำเร็จแน่ การเรียนโบราณจะต้องให้เรียนอ้อเพื่อให้จดจำได้ดี

  ท่านให้ยกครูวันพฤหัสบดี เทียน ๕๐ คู่ ธูป ๕๐ คู่ ดอกไม้ขาว ๕๐ คู่ เงิน ๖ บาทเวลาเรียนให้เสก ๒๕ จบ เมื่อเรียนแต่ละครั้งให้เสกคาถานี้ ๓ จบ จะมีสติปัญญาดีจดจำได้ดีแล

อ้อเทศน์

อิธ สูปัง เทถะ อิธ โอทนัง เทถาติ

            มนต์อ้อเทศน์นี้ ก่อนจะเทศน์ท่านให้เสกคาถาบทนี้ก่อน ๓ จบ หรือ ๗ จบ ใส่น้ำหรือข้าวกินก็ได้ยกครูวันอังคารคาย ขัน ๕ เงิน ๔ สตางค์

อ้อป่อง

            โอมพุทธอ้อ อ้อหลง อ้อลวง อ้อควง อ้อเค้า ทางอ้อมา ปากเว้าเจรจา  จ่ายผญาปัญญาให้แม่นข้อ อ้อแอ้แพ้เพิ่นทั้งหลาย เขาย้านเฮาฮบตบปัญญาเฮาไว้ อย่าให้แพ้เฮา โอม สาระเหน่พันคัง สะหะป่อง

โอมสหมติด

            มนต์อ้อป่องนี้ให้สำหรับเรียนหนังสือ ใช่ในเวลาจะไปเทศน์ ไปร้องลำทำเพลง ไปโต้ตอบเถียงความเอาแพ้เอาชนะ ท่านให้เสกคาถาบทนี้ ๓ หรือ ๗ จบ ก่อน ท่านว่ามีสติปัญญาดีนักแล ให้ยกครูวันอังคารคาย ขัน ๕ ดอกได้ขาวเงิน  ๖ สตางค์ แดง

อ้อลำ

            อ้อทิปัญญา อ้อจาให้ป่อง อ้อส่องหัวใจ ขอให้ไหลแผ่กว้าง ขอให้เป็นสิ่งน้ำยมนาไหลออกพระออกเจ้าบอกพระอินทร์ลงมา วาจาให้ป่อง ให้ส่องแจ้งในโลก สงสาร จักรวาลลือกูทุกแห่ง โอมมะกะมะกัง หะทะยังให้ป่อง สหะสหุมติด

            มนต์อ้อลำนี้ ให้สำหรับเรียนลำ ผู้ที่จะเรียนลำขึ้นชื่อฤาชา โบราณให้เรียนอ้อก่อน ท่านให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ เงิน ๖ บาท เสก ๓ หรือ ๗ จบก่อนจะเรียนลำ ท่องกลอนลำ เวลาจะทำ มีสติปัญญาจดจำกลอนได้ดี

อ้อเทศน์

            โอมนะโม นะมา จิงหาเห็นกาบ ขอให้ฮาบคือหน้ากองชัย ขอให้ผู้ข้าเสียงใส เทศน์คล่อง ข้อให้ผู้ข้าส่องเห็นข้อปัญญา อินตานั่งแท่น แก่นแก้วทั้งสามอาฮามวิเศษ เกษแก้วจุฬา สาธุเนอขอให้มีผญาปัญญาฉลาด ผู้ข้าบ่ได้ประมาท ฝูงหมู่ครูบา พุทโธ พุทธัง ธัมมังเป็นเค้า เป็นเจ้าแห่งเฮาชื่อโคตมะ เป็นพระโผดสัตว์ในสงสาร นิรพานฮู้แล้วพระแก้วสืบมา พระอรหันตาสืบไว้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ สหมติด

            มนต์อ้อเทศน์นี้ใช้สำหรับเทศน์เสียงใส เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้ฟัง ท่านให้ยกครูคายขัน ๕ ขัน ๘ เทียนเล่มบาท ๑ คู่ เงิน ๑บาท เสกน้ำล้างหน้า เสกอาหารเสกผ้าเช็ดหน้า เสก ๓ หรือ ๗ จบก็ได้

อ้อป่องใจ

            โอมสีใสส่องแจ้ง ขอให้แจ้งปานดาว ขาวปานหมอก ออกแต่ธรรมเจ้า เก้านโม โอมสีโสมสีใสสหับ

            มนต์อ้อป่องใจบทนี้ ให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ดอกไม้ขาว เทียนเล่มบาท ๑ คู่ เงิน ๔ สตางค์ เสกก่อนเรียนหนังสือ มีสติปัญญาจดจำได้ ดีนักแล

อ้อเรียนธรรม

            อ้ออ้อ อุอ้อน้ำอ้อดี อ้อมีฤทธีศักดาแก่กล้าผู้ข้าขออันเชิญเอาสามสิบอ้อ มาช่วยแก้ช่วยไขในหัวใจผู้ข้า ขอให้ได้ดั่งแว่นแก้ว ผู้ข้าเฮียนธรรมพระเจ้าแล้ว ขอให้สอดส่องสรญาณ ในวิมานคำผาสารท ขอให้เทพดาองค์ฉลาด เข้ามาตรัสรู้ในครองธรรม ก็ข้าเทอญ

            มนต์อ้อเรียนธรรมนี้ ถ้าจะเรียนธรรมขับไล่ ธรรมส่อง ท่านให้เรียนอ้อก่อน เพื่อให้มีสติปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ท่านให้ยกครูวันอังคาร คายขัน ๕ ซวยสี่ เงิน ๔ สตางค์ เสก ๓ หรือ ๗ จบ

อ้อป่อง

นะปุปุ มุทะกะ มะทะลุ นะ คิดได้ ยะ คิดเห็น ญัตติยัง มะมะ

มนต์อ้อป่องนี้ ท่านให้คาย ๖ สตางค์ ขัน ๕ ดอกไม้ขาว ยกครูวันอังคาร เสก ๓ หรือ ๗ จบป่องแล

อ้อธุง ๗ หาง

            เอวัง วุตเต ธัมมักขันธา สัพพพุทเธหิ เทสิตา ติกขปัญญาย กาเลนะ โหมิ หัง โข วิสารโท เอเตนะ สัจจวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพทา

            โอมสีสี กูจักอ้าปากก่ายแต่ทีป พระอิศวรให้อ่อนก็อ่อนใจ ใจกูไหลดั่งน้ำออกบ่กินเย็น ใจกูเป็นดั่งเจ้ามโหสถ ใจกูฟดดั่งคุงคามหาสมุทร ไหลลงมาลิเลี่ยน เฟือนฟื้นพระธรณี โอมกุก โอมลุกๆ กูปลุกแล้วพระยอดแก้วไหลหลั่งลงมาช่วยหัวจิตหัวใจรักษาหทัยแลพระธาตุ พระบาทเจ้าองค์อ้อลงมา ชัยยะตุ ภะวัง ชัยยะมังคะลัง สวาหุม

            โอมสีสี คันกูอ้าปากกลายไป เสียงกูใสดั่งน้ำในสระอโนดาต หยาดแต่ฟ้าไหลหลั่งมา มาเข้าปากแห่งผู้ข้า คันผู้ข้าอ้าปากแล้ว ขอให้เป็นดั่งฝนห่าแก้วไหลหลั่งฮำมณี อัชชะแสนจิต อัชชะแสนใจ อัชชะโนช เข้าสู่นิโรธเป็นอันดี โอมละลวย สีละลวย สวาหุม

            โอมพุทโธ นโมเป็นเค้า ธุงใหญ่เจ้า แม่นกาย ๕ หาง วางราศีบาลีมีพร้อมจิต เล่าล้อมแปลให้ทุกอัน ธุงพลันผันมาเดียวนี้ ธุงใหญ่ชี้เอาฟ้ากับดาวนุงผ้าขาวเอิ้นหาวีว่อนๆ เจ้าอ่อนอ้อธุงใหญ่ลงมา ลงมาเยอลงมาเดี๋ยวนี้ ธุงใหญ่ชี้ไปได้ ๗ หาง

            มนต์อ้อธุง ๗ หางนี้ เป็นอ้อเรียนหนังสือใหญ่เรียนธรรม เรียนบาลี เรียนเทศน์ เรียนสวด เกี่ยวกับพระไตรปิฏก ท่านให้เรียนอ้อธุง ๗ หางนี้ จะเป็นผู้มีสติปัญญา จดจำได้ดี

            ถ้าจะเรียนอ้อนี้ เป็นพระภิกษุสามเณรให้นุ่งเหลืองห่มเหลือง ถ้าเป็นคฤหัสถ์ให้นุ่งขาวห่มขาวสมาทานศีล ๕ ไม่ให้ขาด ให้ทำธุง ๑ อัน มี ๗ หาง ในตังธุงให้เขียนคาถาธุง ๗ หาง เอวัง วุตเต ธัมมักขันธาแล้วเสกตัวคาถานี้ ให้ครบคืนละ ๑๐๘ คาบสิ้นไตรมาสแล้วเอาบูชาไว้หัวนอน กราบไหว้สักการะทุกวันเป็นศิริมงคลดีแล

            ท่านให้ยกครูวันพฤหัสบดี คาย ขัน ๕ ดอกไม้สามสี สีละแปดคู่ เทียนเล่มบาท ๓ เล่ม สำหรับจุดบูชาครูในเวลาเรียน ผ้าจีวร ๑ ไตร เงิน ๑๐๐ บาท ทองคำหนัก ๑๐ บาท เสก ๓ หรือ  ๗ จบ ทุกคืนดีนักแล

ผูกอ้อ

            โอมสูบ กูจักสูบเอาหุ่น กูจักอุ่นเอาฮอยกูจักสูบเอามนต์ หิงหลวงมาเป็นมนต์น้อย กูจักสูบเอามนต์หิงห้อย มาเป็นข้อยมนต์กู โอมสหับมัดไว้ โอมปะโล มหายานัง

            มนต์ผูกอ้อนี้ ใช้เมื่อเวลาเรียนอ้อ และอยากจะให้อ้อนั้นศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัว ไม่มีใครสูบเอาไปได้ ให้เสกผูกไว้ ท่านให้ยกครูวันอังคาร คายขัน๖ เงิน ๑ สลึง เสก ๓ หรือ ๗ จบเวลาเรียนอ้อแล้ว

ธรรมเวสสุวัณ

  สาธุ สาธุ ข้าพุทธิเจ้า เก็บดอกไม้ลีลามาสมมาท้าวเวสสุวรรณ อันรุ่งเรื่องเดช ข้าพุทธิเจ้าน้อมทั้งพ่อและแม่ครูบาร์อาจารย์ก็นิยม สมพรแก่ข้าพเจ้านมัสการคุณพระธรรมเจ้าทั้งแปดหมื่นสี่พันธ์พระธรรมขันธ์ขอให้พระองค์เสด็จมานิยมสมพรแก่ข้าพุทธิเจ้า นิยม นิยม มหานิยมท้าวเวสสุวรรณ เชิญนิยม ท่านบัลดาลให้นิยมไหลหลั่งล้นทั้งลาภ ผลพูนทวี ทั้งทรัพย์ และสมบัติให้นิยมไหลมา ท้าวเวสสุวรรณ ผู้มีสมบัติมากล้น เชิญท่านนิยมขอให้ทำมาค้าขึ้นขายคล่อง เงินทองไหลมาทำกิจการการงานก็รุ่งเรื่อง ด้วยเดชบารมีเดชอันไพรศาล ขอให้รุกทายหายกะโทษ ทั้งเวรฮ้อยห้าประการนิพพานเทอญ เวสสะพุสะ

ครูธรรมพระอิศวร

            โอมนะมัสสิวายะ 

            สาธุ สาธุ ข้าพุทธิเจ้า เก็บดอกไม้ลีลามาสมมาพระอิศวรผู้เป็นเจ้าฟ้า มหาเทพโพเรนาสเจ้า ทั้งพ่อและแม่ครูบาร์อาจารย์ ก็นิยมสมพรแก่ข้าพุทธิเจ้า บูชาธรรมอันเป็นแก้วประเสริฐสองเฮืองฮุ่งพระนางฟ้า ก็นิยม นิยมสมพรทั้งเทพไท้เทวามหาเทพเทวาธิเทวะ ก็นิยมยินดีทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินก็นิยม นิยม ทั้งครุฑ นาค กินนร กินรี  ทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ มหาศักดิ์ นาคน้ำมหาราช ขุนนางท้าวพระยา ก็นิยม นิยมทั้งโลกกโลกา นิยมทั้งแก้วมณีโชติ แก้วมไพรฑูรย์ แก้ววิเชียรแก้วปัทมราช ก็นิยมทั้งเทพเทวา เทพดาอีกทั้งอนันแสนโกฏิจักรวาล สี่หมื่นโลกธาตุก็นิยม ข้าพุทธิเจ้าจึงขอเชิญนิยม พระนางเจ้าหว่านสวนบริบูรณ์ ทั้งเอกอุดมทั้งพืชพันธ์ธัญญาหาร ทั้งข้าว น้ำเงินทอง แหวน แก้วมะณีโชติ ก็ไหลหลังล้น ดังนะทีไหลมาบ่ขาดสายบ่ขาดสูญบ่บกได้แต่จักยาม ข้าพุทธิเจ้าจงขออันเชิญ นิยมพระอิศวรผู้เป็นเจ้าฟ้า ผู้มีฤทธิ์ผู้เป็นใหญ่ บ่มีผู้ใดกล้าประมาทได้ ทั้งต่อหน้า และลับหลัง ชื่อเสียงเกียรติยศพระองค์ลือ เลื่อง อยู่กล้องทั่วโลกในขอบเขตจักรวาฬ ทั้งใหญ่น้อย บ่มีเภทภัยอันตราย เคราะห์ฮ้ายหรือทุกโศก โรคภัย ทำร้ายได้แต่จักยามเพราะนิยมธรรมพระองค์อายุยืนยืนยาว สิ่งบ่ดีสิ่งฮ้ายก็หายเสีย ขอให้ทุกกะทายหายกะโทษ ทั้งเวรฮ้อยห้าประการ นิพพานเทอญ

            เกสา โลมา นักขา ทันตา  สจนกโต พุทโธ ตะโจ ธรรมะนมะออุ

 ห้องธรรม  ๑.พุทโธ   ๒. สาวัง   ๓. นิยม   ๔.จ๊อ  ๕. สิริ   ๖.เจี๊ย   ๗. นามูลกสิ   ๘. รันทัน  ๙. กุณนามูลสิ

ธรรมปสมพุทธะวาจา

อหังวันทามิ   ปฐมพุทธวจนะ

อเนกะชาติสังสารัง     สันธาวิสสัง อนิพพิสัง

คหะการัง คะเวสันโต     ทุกขาชาติ ปุนับปุนัง

คะหะกะระกะ ทิฐโฐสิ   ปุนะเคหัง นะกาหะสิ

สัพพา เต ผสุกา ภัคคา    คะหะกูฏัง วิสังขะตัง

วิสังขาระคะตัง จิตตัง   ตัณหานัง ขะยะมัชฌะคาติ

ห้องธรรม  ๑.พุทโธ ๒. สาวัง ๓. คุณํ ๔ วช ๕.พลัง ๖. เตชัง ๗.วิริยัง ๘. นิพพานัง ๙. นิกขัง

ธรรมพระเจ้า 28 พระองค์

                                    *ตังเมสะทีโก มังสุเรโส อปะนาปสุสุปิ  อธสิติ ปุวิสิเว กุโกกโค ฯ

ห้องธรรม  ๑.พุทโธ   ๒. สาวัง   ๓. คุณํ   ๔ ยะสัง   ๕.สิทธิ   ๖. กัมมัง   ๗.สัจจัง   ๘. นิพพานัง    ๙. นิกขัง

ธรรมพระเจ้ารัตนาตรัยนิมิตบันดาล

                        *นะมะนะอะ นอกอนะกะ  กอออนออะ  นะอะกะอัง

            ตังเมสะทีโก มังสุเรโส อปะนาปสุสุปิ  อธสิติ ปุวิสิเว กุโกกโค

            มออุ สีวัง อจุตตัง พระอรหัง จุตติ โลกะวิทัง ยะธิระ สังฆัง จุตติ จุตติ

โอม โธ โธ  นโม นะมะอะอุ 

โอม โธ โธ นิมิตมหาลาโภ นะส่องโมแจ้ง พุทธรู้เห็นธาแทงได้ตลอด ยะมหาลาโภ

โคนานะปราปมารนะ         โคนานะ   เงิน ทองไหลมาเทมานะ

โคนานะ   ช่วยกันนะ เมตตานะ    โคนานะ   ลาโภมหาลาโภนะ

โคนานะ    นิมิตมหานิมิตนะ

โคนานะผ่องใส่ส่องแจ้งรู้แจ้งแทงได้ตลอดนะ   

โคนานะนิมิต ไข่ส่องแจ้งรู้เห็นแทงได้ตลอด

โคนานะ   ร่ำรวย ร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี

โคนานะ   ค้ำชู ค้ำชู ค้ำคูณ ค้ำคูณ

โคนานะ   ผู้คนไหลมาเทมานะ ข้าวของไหลมาเทมานะ เงินทองไหลมาเทมานะ

โคนานะ   ร่ำรวย ร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ลาโภมหาลาโภ นิมิต มหานิมิต ให้รู้แจ้งรู้เห็นแทงได้ตลอด

โคนานะ   โหม โคนานะโหม โคนานะล้อม อันตรายวินาสสันติ

โคนานะ    ปราบมารนะ

โคนานะ   เงินทองไหลมาเทมา

โคนานะ   ช่วยกันนะ เมตตานะ

            นะมะ มะอะอุ สุคโต ภควา นมออุ พุทธ นิมิต ธัมมนิมิต สังฆนิมิต ไขให้รู้แจ้งแทงได้ตลอด นมออุ ลาโภมหาลาโภ นมออุ ร่ำรวย ร่ำรวย เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี นมออุ พุทธังโหม ธัมมังโหม สังฆังโหม สังฆังล้อม อันตรายา วินาสสันติ

นมออุ พระพุทธไตรญาณมณี

นิจจัง กาลัง ปิยังโหติ เทวตาปิ นิปัตเตยยัง มหาเตชัง มหาตะยัง พะเล เนเน เตเช ชะยะตุ ชะยะมังคะลัง

สัมมา อรหัง  สัมมา

            สัมมา  สัมพุทโธ สัมมา

            สัมมา  วิชาจะระณะสัมปันโน สัมมา

            สัมมา สุคะโต   สัมมา

            สัมมา โลกะวิทู  สัมมา

            สัมมา อนุตตะโร  สัมมา

            สัมมา สัตถา เทวะมนุสสานัง  สัมมา

            สัมมา พุทโธ  สัมมา

            สัมมา ภะควา  สัมมา

มะอะอุ นะมะพะธะ นะโมพุทธายะ พุทโธ

สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง

พุทโธ พุทโธ พุทโธ................. โธโธโธ................................

ธรรมพุทธะบูชา

           

            นะโมพุทธายะ พระพุทธะสัพพัญญุตะญาณมณี จินตาชินปะโรสหัสสโกฏิ์ สหัสสสีเส สหัสสะสุธรรมา สหัสสะชาตูนิ นะรานะระหิตังเทวัง วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฎฐะ ฐาเน สุปะติฏฐิตา สารีริกธาตุง มหาโพธิง พทุธะรูปัง สะกะรังสะทา นาคะโลเก เทวะโลเก ตาวะตังเส พรัหม์โลเก ชัมพูทีเป สังกาทีเป สารีริกธาตุ โย เกสาธาตุโย อะระหันตาธาตุโย เจติยัง คันธะ กุฏี กจุราสี ติสะหัสสะ ธัมมักขันธา ปาทะ เจติยัง  นะระเทเวหิ ปูชิตัง พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุท โมนะ อสังวิสุโลปุสะพุภะ  อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู นมพท อหังนุกา พุทธาปูชา ธัมมะปูชา สังฆปูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง โกณทัญญัง จะหมาเถรัง กัสสะปัง จะมหาเถรัง  สารีปุตตังจมหาเถรัง อุปาลี จะหมาเถรัง อานันทังจะมหาเถรัง คะวัมปะติจะมหาเถรัง โมคคัลลานัง จะมหาเถรัง ราหุรังจะมหาเถรัง โสภิตัง จะมหาเถรัง มหานามัง จะมหาเถรัง อนุรุทธัง จังมหาเถรังปุณณัง จะมหาเถรัง อังคุลิมาลัง จะมหาเถรัง สีวลี จะมหาเถรัง อุปคุตตัง จะมหาเถรัง อสีติ จะมหาเถรัง อหังวันทามิ ทูระโต อหังวันทามิธาตุโย อหังวันทามิสัพพะโส  สีสังเม ปทุมัง กัต์วานะตัง พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

อิเจวะมัจจัน ตะนะมัสสะเนยยัง

นะมัสสะมาโน ระตะนะตะยังยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุรังอะลัตถัง ตัสสานุภาเวนาหะตันตะราโย

                        *พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

             ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

             สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

                        เกสา โลมา นักขา ทันตา ตะโจ (อนุโลม)

            ตะโจ ทันตา นักขา โลมา เกสา (ปฏิโลม)

            พุทโธ พุทโธ นะเมตตาจิตตัง

                        *นมออุ อรหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ

            สัมมา สัมมา สัมมา  สัม มะ โส ตัตตะภิญญาสัมปติจฉามิ

            พุทโธ พุทโธ พะเมตตาจิตตัง

ห้องธรรมบรรลุนวสัมมาโกฏิ์  ธรรมนวสัมมาโกฏิ์

            สัมมา อรหัง  สัมมา

            สัมมา  สัมพุทโธ สัมมา

            สัมมา  วิชาจะระณะสัมปันโน สัมมา

            สัมมา สุคะโต   สัมมา

            สัมมา โลกะวิทู  สัมมา

            สัมมา อนุตตะโร  สัมมา

            สัมมา สัตถา เทวะมนุสสานัง  สัมมา

            สัมมา พุทโธ  สัมมา

            สัมมา ภะควา  สัมมา

ธรรมอัตถิอุณหิวิชัยบรรลุสายเทพ

            อิติปิโส ภควา สิบนิ้วข้าพเจ้าทั้งหลายขอให้เป็นทุงไชยงาม ขอถวาย กราบไหว้ วันทานมัสการคุณพระปัญญาคุณ คุณพระเมตตาธิคุณ คุณพระกรุณาฑิคุณ แห่งองค์สมเด็จพระสมสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ดวงตาทั้งสองของข้าพเจ้า ทั้งหลายนี้ ขอให้เป็นจักขุแก้ว ฮุงเฮือง ทุกค่ำเช้า ได้บูชาไหว้พระธรรมเจ้าทั้ง ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์ อีกทั้งพร้อมด้วย มาลายังดอกได้หอมฮวยเฮ้ามาบูชาแห่งธรรมเจ้าขอให้พระองค์ จงเสด็จลงมานิยมสมพรแห่งฝูงข้าทั้งหลาย แลข้าเทอญ ท้าวอุณหิสสวิชัย จงได้เสด็จมานิยมสมพรแก่ฝูงข้าทั้งหลายฝูงข้าทั้งหลายเหล่านี้ ขออังเชิญเทพเทวดาทั้ง ๘๐ โกฏิ์ จักรวาลสาธุ สาธุ สาธโว เมสุนันตุ พุทธัสสวนกาโล อยัมภทันตา ธัมมัสสวนกาโล อยัมภทันตา  สังฆัสสวนกาโล อยัมภทันตา  จิเจรุนิ อุณหิสสะวิชโย วิญาณสัมปันโน อิติปิโส ภควา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ นโมพุทธายะ

            อัตถิ อุณหิสสะวิชะโย ธัมโมโลเกอนุตตโร สัพพะสัตตะหิตัตถายะตัง ตะวัง คัณหาหิ เทวะเต ปริวิชเช ราชะทัณเฑ  อะมะนุสเสหิ ปาวะเก พะยัคเฆ นาเค วิเสภูเต อะกาละมะระเณ นะวา สัพพัสวา มรณา มุตโต ฐเปตฺวา กาละมาริตัง ตัสเสวะอานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา สุทธสีสัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเรตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา สิกขิตัง จินติตังปูชัง ธาระณัง วาจะนัง คะรุง ปะเรสัง เทสะนัง สุตวา ตัสสะอายุปะวัฑฒตีติ

* อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะ ปิติอิ ( 9 จบ)

พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา ปฏิปฏิบูชา ภะวันตุเม ฝูงข้าทั้งหลายเหล่านี้จึงขอโอกาสอาราธนาท้าวอุณหิสสะวิชัย จงได้เสด็จลงมานิยมสมพรแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ฝูงข้าทั้งหลายเหล่านี้จึงเรียกว่า ติเยมัสนัง พุทธตึงตัง ธัมมะตึงตัง สังฆะตึงตัง ขออันเชิญพระอรหันตาเจ้า ทั้ง ๕๐๕ พระองค์ ตาเจ้า อีกทั้ง พระขีณาสพ และพระอสีติ  มหาเถระ เจ้าจงได้เสด็จลงมาตรัสส่องแจ้งสรญาณในขอบฟ้าและดินแดน นออน นมมน นอุอุน อรหัง พุทโธ พุทธะนิมนต์ ธัมมะนิมนต์ สังฆะนิมนต์ นิมนต์ๆๆ  นิมนต์ๆๆ พุทโธ ๆๆๆ  โธๆๆๆๆ

ธรรมสามภาณ

อามะ ภันเต ภควา

มหากัสสะปะ โพชฌังคะสุตตะปาโฐ

มหาโมคคัลลานะ โพชฌังคะ สุตตะปาโฐ

มหาจุนทะโพชฌัง คะสุตตะปาโฐ

สัตตะโพชฌังคา ภควาตา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา อภิญญายะ สัมโพธิยะ นิพพานายะ สังวิตตันติ

ตัคฆะ กัสสะปะ โมคัลลานะจุนทะโพชฌังคา ตัคฆะ กัสสะปะ โมคคัลลานะ จุนทะ โพชฌังคาติ

            อิทะมะโวจายัสมา มหากัสสะโปมหาโมคัลลาโน มหาจุนโท สะมนุญโญ สัตถา อโหสิ วุฎฐะหิ จะภควา ตัมหา อาพาธา ตถาปะหีโน จะ ภควะโต โส อาพาโธ อโหสีติ

ห้องธรรม  พุทโธ สาวํ  คุณํ  วิริยํ   ธัมมํ   สีลํ  ปุญญํ  ตัปปัง  รูปํ

ธรรมมหาคุณไตรปิฏก

    จิเจรุนิ  สังวิธาปุกะยะปะ อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ สธวิปิสะอุ อสังวิสุโล ปุสะพุภะ    มะอะอุ นะมะพะธะ  นะโมพุทธายะ พุทโธ อิกะวิติ  พุทธะสังมิ  โลกะวิทู

    มะอะอุ นะมะพะธะ  นะโมพุทธายะ พุทโธ นะโมพุทธายะ นะรานะระหิตัง เทวังนะระเทเวหิปูชิตัง นะรานัง กามะปังเกหิ นมามิ สุคคะตังชินัง นมามิหัง

อิติปิโส ภะคะวา  สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอะระหัง สัมมาสัมพุทโธ  นะโมพุทธายะ พระพุทธอุปคุตโต อรหัง พุทโธ อิติปิโส ภควา นโมพุทธายะ นมามีหัง

            พุทธบูชา มหาเตชะวันโต  ธัมมะบูชามหาปัญญะวันโต สังฆบูชามหาโภควโห ติโลกนาโถ อรหังพุทโธ อิติปิโส ภควา นโมพุทธายะ นมพท นะอุนะอะนะมะ   มะนะมะอุมะอะ อะนะอะมะอะอุ อุมะอุนะอุอะ นะมัตถุพุทธานัง นมัตถุโพธิยา นะโมวิมุตตานัง นโมวิมุตติยา นมพท นโมพุทธายะ นโมพุทธัสสะ นมามิหัง

            ปทุมุตตะโร  จะปุระพายัง อาคะเณยยะ จะเรวะโต ทักจิเณ กัสสะโป พุทโธ หรติเย จะ สุมังคะโล ปัจฉิเม พุทธะสิขี จะพายัพเพ จะเมธังกะโร อุตตะเร สากะยะมุนี เจวะอิสาเณ สะระณัง กะโร ปฐวิยัง กุกกุสันโธ อากาเส จะทีปังกะโร เอเต ทะสะทิสา พุทธาราชะธัมมัสสะปูชาตา นัตถิ โรคะ ภะยัง โสกัง เขมัง สัมปัตติทายะกัง ทุกขะโรคะภะยัง นัตถิ สัพพะสัตตู วิธังเสนตุ เตสัญญา เณนะสีเลนะ จะอนาคะตัสสะพุทธัสสะเมตเตยยัสสะ  ยะสัสสิโน มหาเทโว มหาเตโช สัพพะโสตถี ภะวันตุเม

            ห้องธรรม พุทโธ    มะอะอุ  โลกะวิทู  นโมพุทธายะ ยเวสเจเอหิ สังวิธาปุกะยะปะ สารูโกธัมปกิณอธิ อสังวิสุโลปุสพุภะ

ธรรมบรรลุนวโกฏิบันดาล

นะโม 3 จบ

                        ขออัญเชิญพระพุทธะมาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระธัมมะมาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระสังฆมาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระศิวะนารายะณะ มหาพรหมานัง มาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระฤาษี ๑๐๘ พระองค์ มาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระมหาฤาษี นวโกฏิทั้ง ๙ พระองค์มาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระเทวนาคราชามาสถิตประจำจิตข้า

            นิมนต์ๆๆ  นิมนต์ๆๆ  นะมะ    นะอะนะอุ

ห้องธรรม พุทโธ สาวัง นิยม สิทธิ สิริ ยะสัง ธัมมัง หุลู สวาหายะ

คาย ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘ เงิน ๔ บาท ธูป ๙ ดอก เทียมเล่มบาท ๔ เล่ม ผ้าขาวยาววา

ครูธรรมพระอิศวรนวโกฏิ์

นะโมพุทธายะ   (๗ จบ)

            ขออัญเชิญพระพุทธะมาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระธัมมะมาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระสังฆมาสถิตประจำจิตข้า

            ขออัญเชิญพระอิสราผู้เป็นเจ้ามาสถิตประจำจิตข้า

            นะมะนะอะนะอุ นะมะนะอะนะอุ  นะมะนะอะนะอุ

            *โอมนโมพุทธายะสิทธัง อิสะปะมิ สะจะนะกะโต ชาตะมะสะละวา อิสวาสุ อิสวาสุ อะระหัง พุทธะสังมิ โลกะวิทูอะนะอะมะอะอุ นะโมพุทธายะ นมพท จะภะกะสะ อิออุ นะมะอะอุ นะมะนะอะนะอุ อะอุนะมะอะอุ (๗ จบ)

            *ตังเมสะทีโกมังสุเรโส อะปะนาปะสุสุปิ อะทะสิติปุวิสิเว กุโกกะโค  นะมามิหัง

            *นะมะนะอะ   นอกอนะกะ  กอออนะอะ  นะอะกะอัง

นะอังมะกะ นะอะอะนะ นะอะกอนอ นะออกะกะ

นะกะอังกะ  นะออกะนะ นะอออะกอ  อะอะนะนอ

นะกอกอนะ   อะอะกะอะ  อะกออออะ  กะนอนะนะ

*นะมะนะอะ นอกอนะกะ  กอออนออะ นะอะกะอัง

อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง อสุนะอะ

*สาธุ สาธุ ฝูงข้าทังหลายเหล่านี้จึงเรียกว่า พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา

            ขอบูชาคุณพระพุทธ ขอบูชาคุณพระธรรม ขอให้พระธรรมจงได้เสด็จมานิยมสมพรแก่ฝูงข้าพเจ้าทั้งหลาย ฝูงข้าทั้งหลายเหล่านี้จึงขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระพุทธอนุตตะระสัมมาสัมโพธิญาณเจ้า ขอโอกาสอาราธนาคุณพระพุทธอรหังสัมมาศาสดาเจ้า ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระพุทธศรีศากะยะมุนีโคดมบรมครูเจ้า

            ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณบรมครูทั้งหลาย  ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีอิศวรศิวะสังกรเจ้า ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระนารายณ์เจ้าอาวะตาล ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระพรหมเจ้า ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระพิฆเณศท้าวพันตา ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษี ๑๐๘ องค์ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษี ๘๐,๐๐๐ องค์ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีมั่นศรีจันทรา ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีนารอด ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณนาลัย ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณตาวัว ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีตาไฟ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีกระไลยะโกฏิ์ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีกัสสปะ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีไตรภพ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีทัศมงคล ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีเพ็ชรฉลูกัญ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณท้าวมหาพรหม

ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีภุชงค์ นาคราช

ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณท้าวเวสสุวัน

*นมพท อิอะอุนะ มะอะอุ (๗ จบ)

*จึงได้เสด็จลงมานิยมสมพรแห่งฝูงข้าทั้งหลาย ฝูงข้าทั้งหลายเหล่านี้ จึงเรียกว่าติเยมัสนัง พุทธะตึงตัง ธัมมะตึงตัง สังฆะตึงตัง ขออัญเชิญพระอรหันตาเจ้าทั้ง ๕๐๕ พระองค์ตาเจ้า จงได้เสด็จลงมาตรัสส่องแจ้งสระญาณในของฟ้าและแดนดิน อุอะอะระหัง พุทธะนิมนต์ ธัมมะนิมนต์ สังฆะนิมนต์ นิมนต์ๆๆ  นิมนต์ๆๆ สาธุๆๆ พุทโธ

*มะนะ อะนะ อุมะ   อะอุนะมะนะอุนะ (๗ จบ)

*อะนะมะอะอุ  อุนะอุมะอุอะ นะอะนะมะ  อุอะอุนะอุมะ (๗ จบ)

*นะมะนะอะนะอุ  อะอุนะมะอะอุ ( ๓ จบ)

*อะอุมะนะ  นะมะอุอุ (๗ จบ)

*อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะ ปิติอิ ( ๙ จบ)

*อสังวิสุโลปุสะพุภะ ( ๙ จบ)

ภะสัมสัมวิสะเทภะ สจนะกะโต สาธุ ๆๆ พุทโธๆๆ โธๆๆ

ห้องธรรม  พุทโธ    สาวัง   ปิโย   สิทธิ   สิริ   ยะสัง   ธัมมัง  หุลู    สวาหายะ

ครูธรรมพระอิศวร

            โอมนะมัสสิวายะ

            โอมนะโมอิสราเมศิวะเทวัญจะ  ภะวันตุเม

ทุติยัมปิ โอมนะโมอิสราเมศิวะเทวัญจะ ภะวันตุเม

ตติยัมปิ โอมนะโมอิสราเมศิวะเทวัญจะ ภะวันตุเม

โอมนะสัสสติ ภิสสะสะ รัศมีมงคลสีแดงแสงใสประดุจดังเทวาสุราลัย อยู่ในวิมานแก้ว เพลิด แพร้ว อยู่ใน เมืองมนุษย์ดุจตรี ประดุจหงส์ สิบบาท พระอิศวรจึงประสิทธิประสาทให้แก่กู นะลาภัง ภะวันตุเม นะโอมประสิทธิเม

            สาธุ สาธุ ข้าพุทธเจ้าเก็บดอกไม้ลีลามาบูชาสมมา พระพุทธเจ้า พระธัมมะเจ้า พระอิศวรเจ้า  ผู้เป็นใหญ่ในชั้นฟ้า ขอให้พระองค์เสด็จลงมานิยมสมพรแก่ฝูงข้าพเจ้าทั้งหลาย ฝูงข้าพเจ้าทั้งหลายเหล่านี้ ขอบูชาธรรมอันเป็นแก้วประเสริฐส่องเฮืองฮุ่ง พระนางฟ้าก็นิยม นิยมสมพรทั้งเทพไท้เทวา มหาเทพเทวาธิเทวะก็นิยม  นิยมยินดีทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินก็นิยม นิยม ทั้งครุฑ นาค กินนร กินรี  ทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ มหาศักดิ์ นาคน้ำมหาราช ขุนนางท้าวพระยา ก็นิยม นิยมทั้งโลกโลกา นิยมทั้งแก้วมณีโชติ แก้วไพรฑูรย์ แก้ววิเชียรแก้วปัทมราช ก็นิยมทั้งเทพเทวา เทพดาอีกทั้งอนันแสนโกฏิจักรวาล สี่หมื่นโลกธาตุก็นิยม ข้าพุทธิเจ้าจึงขอเชิญนิยม พระนางเจ้าหว่านสวนบริบูรณ์ ทั้งเอกอุดมทั้งพืชพันธ์ธัญญาหาร ทั้งข้าว น้ำเงินทอง แหวน แก้วมะณีโชติ ก็ไหลหลังล้นนิยมยินดีทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินก็นิยม นิยม ทั้งครุฑ นาค กินนร กินรี  ทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ มหาศักดิ์ นาคน้ำมหาราช ขุนนางท้าวพระยา ก็นิยม นิยมทั้งโลกโลกา นิยมทั้งแก้วมณีโชติ แก้วไพรฑูรย์ แก้ววิเชียรแก้วปัทมราช ก็นิยมทั้งเทพเทวา เทพดาอีกทั้งอนันแสนโกฏิจักรวาล สี่หมื่นโลกธาตุก็นิยม ข้าพุทธิเจ้าจึงขอเชิญนิยม พระนางเจ้าหว่านสวนบริบูรณ์ ทั้งเอกอุดมทั้งพืชพันธ์ธัญญาหาร ทั้งข้าว น้ำเงินทอง แหวน แก้วมะณีโชติ  พร้อมมนุษย์ทั้งเทวาและนาคา  ก็ไหลหลังล้นไหลมา

เอหิ มะมะ เอหิมะมะ ผู้คนไหลมา ข้าวของไหลมา เงินทองไหลมา นะชาลีติ เอหิจิตตังปิยังมะมะ

            นะโมพุทธายะ นมพท

            นะมะนะอะ   นอกอนะกะ  กอออนะอะ  นะอะกะอัง

นะอังมะกะ นะอะอะนะ นะอะกอนอ นะออกะกะ

นะกะอังกะ  นะออกะนะ นะอออะกอ  อะอะนะนอ

นะกอกอนะ   อะอะกะอะ  อะกออออะ  กะนอนะนะ

นมพท จภกสะ นอกอนะกะ เอหิจิตตัง มนุสสานัง ปิยังมะมะ

            ปิโยเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมานะมุตตะมัง

ปิโยนาคะสุปันนานัง ปิณินทริยัง นะมามิหัง

ขอให้ไหลมาเทมาดังนะทีธานท้นอย่ารู้ขาดสูญเลยนา อย่าขาดสาย  อย่าได้บกได้แต่จักยาม

โอมนะโมพุทธายะสิทธัง อิสะปะมิ สะจะนะกะโต ชาตะมะสะละวา อิสวาสุ สุสวาอิ อรหัง ขอให้สิ่งบ่ดี

สิ่งฮ้ายก็หายเสีย ขอให้ลุกทายหายกระโทษ ทั้งเวรห้าร้อยประการนิพพานเทอญ

            เกสา โลมา นักขา ทันตา ตะโจ

            สจนกโต  สจนกโต สาธุๆๆ พุทโธๆๆๆ ๆๆๆๆ

ห้องธรรม   พุทโธ    สาวัง   นิยม   สิทธิ   สิริ   ยะสัง   ธัมมัง  หุลู    สวาหายะ

ธรรมพระรัตนตรัย

นะโม ๓ จบ

            นะโมพุทธายะ  โมพุทธายะนะ   พุทธายะนะโม

            ธายะนะโมพุท    ยะธาพุทโมนะ

ห้องธรรม

            นะโมพุทธายะๆๆ

            โมพุทธายะนะๆๆ

            พุทธายะนะโมๆๆ

            ธายะนะโมพุทๆๆ

            ยะธาพุทโมนะๆๆ

วิชาครูธรรมท้าวเวสสุวรรณ

            พุทธัง อาราธนานัง สะระณัง คัจฉามิ  ธัมมัง อาราธนานัง สะระณัง คัจฉามิ  สังฆัง อาราธนานัง

สะระณัง คัจฉามิ   อิสวาสุ พุทโธ อิสวาสุ ธัมโม อิสวาสุ สังโฆ

            *นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ อิสวาสุ สุสวาอิ อิติปิโส ภควา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง อะระหัง สุคะโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวัณโณ จาตุมมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะพุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวัณโณ นะโมพุทธายะ

นะมะนะอะนะอุ  นะมะนะอะนะอุ  นะมะนะอะนะอุ

            *ตังเมสะทีโก มังสุเรโส อะปะนาปะสุสุปิ อะทะสิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค  นะมามิหัง

            *นะมะนะอะ   นอกอนะกะ  กอออนะอะ  นะอะกะอัง

นะอังมะกะ นะอะอะนะ นะอะกอนอ นะออกะกะ

นะกะอังกะ  นะออกะนะ นะอออะกอ  อะอะนะนอ

นะกอกอนะ   อะอะกะอะ  อะกออออะ  กะนอนะนะ

*นะมะนะอะ  นอกอนะกะ  กอออนออะ  นะอะกะอัง

อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง อสุนะอะ

*กาละกัญชา มหาภิสมา

โสฬสะมังคะคัญเจวะ นะวะโลกุตตะระ ธัมมะตา จัตตาโร  จะมะหาทีปา 

ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏกธัมมะขันธา  ฉะกามาวะจะราตะถาปัจจะทัสสะ

ภะเวสัจจัง ทะสะมังสิละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฏิหารัญจะทะวาทัสสะ

เอกะเมรุจะ สุราอัฏฐะ  ทะเวจันทัง  สุริยังสัคคา            สัตตะโพชฌังคา เจวะ 

 จุททัสสะ จักกะวัตติจะ เอกะ ทะสะ  วิษณุราชา    สัพเพเทวา  สะมาคะตา 

มัง รักขันตุ   สัพพะทา    เอเตนะ   มังคะละเตเชนะสัพพะโสตถีภวันตุเม

            *อิติ ปาระมิตตาติงสา   อิติ  สัพพัญญูมาคะตา   

อิติ  โพธิมนุปปัตโต     อิติ  ปิโสจะเตนะโม

            *อะระหัง สุคะโต ภควา  สัมมาสัมพุทโธ

            *นะอุอะมะ  อุมะอะนะ  นะอุมะอะ

มะอุนะอะ  อะนะอุมะ  นะอุมะอะ

มะอุนะอะ  อะนะมะอุ   อุนะมะอะ ( ๓ )

*นะอุนะอะนะมะ  มะนะมะอุมะอะ  อะนะมะอะอุ   อุมะ อุนะ อุอะ   ( ๓ )

*มะนะอะนะอุนะ  อะอุนะมะนะอุนะ  ( ๓ )

*อะนะมะอะอุ  อุนะอุมะอุอะ   นะอุนะอะนะมะ  อุอะอุนะอุมะ (๓)

*เวสสะพุกะ ( ๓ )

พุทธะนิมนต์ ธัมมะนิมนต์ สังฆะนิมนต์  นิมนต์ๆๆๆๆๆ สาธุ ๆๆ พุทโธๆๆ โธๆๆๆๆ

ห้องธรรม   พุทโธ    สาวัง   ปิโย  สิทธิ   สิริ   ยะสัง   ธัมมัง  หุลู    สวาหายะ

วิชาครูธรรมพระฤาษีมุนีนวโกฏิ์

            โอมนะมะพยัคฆะพุทธาโกนาคะมะเทยยะวา  เทยยะวา ปะเลยยะวา  ปะเลยยะวา ภูภิภะวา พาชะเนเพชะนา มุขัง ปะวะรังคะยา อาทายะ

            อิติปิโส ภควาวาติ ( ๙ )

            อะสังวิสุโลปุสะพุภะ (๙)

            นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา (๙)

            *อิสวาสุ พุทโธ อิสวาสุ ธัมโม อิสวาสุ สังโฆ นมัสสิตะวา อิสีสิทธิโลกะนาถัง อนุตตะรัง อิสีจะพันธะนัง สาตราอะหัง วันทามิตัง อิสีสิทธิเวสะ ฤ ฤา ฦ ฦา 

            *นะมะนะอะนะอุ   นะมะนะอะนะอุ   นะมะนะอะนะอุ

            ด้วยเดชเดชะ ข้าพเจ้าขออัญเชิญ ฤาษีอันมีฤทธิ์ทั้งหลาย มีพระฤาษีนารอด  พระฤาษีนาลัย ฤาษีตาวัว  พระฤาษีตาไฟ  พระฤาษีกะไลยโกฏิ์  พระฤาษีกัสสะปะ  พระฤาษีไตรภพ พระฤาษีทัสมงคล พระฤาษีเพชรฉลูกัญ  พระฤาษีพรหมา  พระฤาษีพ่อแก่ พระฤาษีภุโฌงค์นาคราช  พระฤาษี ๑๐๘  พระฤาษี ๘๐,๐๐๐ ตน  พระฤาษีคำพลอย  พระฤาษีคำแพง  พระฤาษีสัตตะบส  พระฤาษีสัตตะบรรณ  พระฤาษีมุนีดาบส  พระฤาษีมหาฤาษี พระฤาษีมั่น ศรีจัน  พระฤาษีศรีไชย  พระฤาษีสุเมธดาบส พระฤาษีปัญจฤาษี พระฤาษีพุทธมงคล  พระฤาษีอิสิงหดาบส  พระฤาษีหน้าวัว  พระฤาษีโคดม  พระฤาษีภริทวาร พระฤาษีวิศวามิตร  พระฤาษีชมทิศนี (ชมมิทอัคคี)  พระฤาษีวิสิกรุ  พระฤาษีกศยป (กัด-สะ-หยบ)  พระฤาษี มรีจิ  พระฤาษีอัตริ พระฤาษีอังคีรส  พระฤาษีปุจหะ 
พระฤาษี กระตุ พระฤาษีปุจลัสตะยะ พระฤาษีวิสิษฐิ  บรมครูฤๅษีโคตรบุตร  บรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจ พระฤๅษีอิสิกัลโลยะกะ  พระฤๅษีพรหมประทาน พระฤๅษีสิงหล พระฤาษีอิศวรเจ้า พระฤๅษีประศุรามมุนี  พระฤๅษีพิฆเณศ พระฤาษีลิงดำ พระฤาษีลิงขาว  พระฤาษีลิงแดง พระฤาษีปู่เจ้าเขาเขียว พระฤาษีปู่เจ้าประสิทธิ  พระฤาษีปู่เจ้าสมิงพราย  พระฤาษีปู่สิงสมิงพราย พระฤาษีนาคาราช พระฤาษีอินทรา  พระฤาษีหน้าขาว  พระฤาษีพิราพเจ้า

            ณ กาลบัดนี้ข้าพเจ้าขออัญเชิญมาสู่สถาน อันเป็นมงคลที่นี้ ข้าพเจ้าจะทำพลีกรรมสิ่งใดที่ผิดพลาดข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใดจะประสิทธิแก่ข้าพเจ้าทุกอย่างทุกประการทุกเมื่อเทอญ ปสิสะประสิทธิเม  ฤ ฤา ฦ ฦา ประสิทธิเม

            *อิติอักขรา นามะโหติ เอหิ พันธัง พันธัง จิเรรุนิ อิสะเยนะ วิกรึงคะเร จิเจตะสา มหามันตัง

            *ตังเมสะทีโก มังสุเรโส อะปะนาปะสุสุปิ อะทะสิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค  นะมามิหัง

            * นะมะนะอะ   นอกอนะกะ  กอออนะอะ  นะอะกะอัง

นะอังมะกะ นะอะอะนะ นะอะกอนอ นะออกะกะ

นะกะอังกะ  นะออกะนะ นะอออะกอ  อะอะนะนอ

นะกอกอนะ   อะอะกะอะ  อะกออออะ  กะนอนะนะ

            *นะมะนะอะ  นอกอนะกะ  กอออนออะ  นะอะกะอัง

อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง อสุนะอะ

            *กาละกัญชา มหาภิสมา

โสฬสะมังคะคัญเจวะ นะวะโลกุตตะระ ธัมมะตาจัตตาโร  จะมะหาทีปา

ปัญจะพุทธามหามุนี  ตรีปิฏกธัมมะขันธา  ฉะกามาวะจะราตะถาปัจจะทัสสะ

ภะเวสัจจัง  ทะสะมังสิละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาฏิหารัญจะทะวาทัสสะ

เอกะเมรุจะ สุราอัฏฐะ  ทะเวจันทัง  สุริยังสัคคา            สัตตะโพชฌังคา เจวะ  

จุททัสสะ จักกะวัตติจะเอกะ ทะสะ  วิษณุราชา  สัพเพเทวา  สะมาคะตา     

มัง รักขันตุ   สัพพะทา    เอเตนะ   มังคะละเตเชนะสัพพะโสตถี ภะวันตุเม

           

             *อิติ ปาระมิตตาติงสา   อิติ  สัพพัญญูมาคะตา  

อิติ  โพธิมนุปปัตโต     อิติ  ปิโสจะเตนะโม

อรหัง สุคะโต ภควา สัมมาสัมพุทโธ

            *นะอุอะมะ  อุมะอะนะ  นะอุมะอะ

มะอุนะอะ  อะนะอุมะ  นะอุมะอะ

มะอุนะอะ  อะนะมะอุ   อุนะมะอะ ( ๓ )

            *นะอุนะอะนะมะ  มะนะมะอุมะอะ  อะนะมะอะอุ   อุมะ อุนะ อุอะ   ( ๓ )

            *มะนะอะนะอุนะ  อะอุนะมะนะอุนะ  ( ๓ )

            *อะนะมะอะอุ  อุนะอุมะอุอะ   นะอุนะอะนะมะ  อุอะอุนะอุมะ (๓)

            *นะมะนะอะอุ  อะอุนะมะอะอุ  อะอุมะนะ นะมะอุอุ

พุทธะนิมนต์  ธัมมะนิมนต์   สังฆะนิมนต์  นิมนต์ ๆๆ  นิมนต์ๆๆ สาธุๆๆ  พุทโธๆๆ โธๆๆๆๆๆ....................

ห้องธรรม   พุทโธ    สาวัง   ปิโย  สิทธิ   สิริ   ยะสัง   ธัมมัง  หุลู    สวาหายะ

ธรรมบรรลุนวโกฏิ์

            ขออัญเชิญพระพุทธะมาสถิตประจำจิตข้า

ขออัญเชิญพระธัมมะมาสถิตประจำจิตข้า

ขออัญเชิญพระสังฆมาสถิตประจำจิตข้า

ขออัญเชิญพระอิศวรพระนารายะณะพระวิษณุกัญเจวะ

มาสถิตประจำจิตข้าผู้เป็นเจ้ามาสถิตประจำจิตข้า

            *นะมะนะอะนะอุ นะมะนะอะนะอุ  นะมะนะอะนะอุ

            *นะมะนะอะ   นอกอนะกะ  กอออนะอะ  นะอะกะอัง

นะอังมะกะ นะอะอะนะ นะอะกอนอ นะออกะกะ

นะกะอังกะ  นะออกะนะ นะอออะกอ  อะอะนะนอ

นะกอกอนะ   อะอะกะอะ  อะกออออะ  กะนอนะนะ  

นิมนต์ ๆๆ  นิมนต์ๆๆ สาธุๆๆ  พุทโธๆๆ โธๆๆๆๆๆ....................

            ห้องธรรม   พุทโธ    สาวัง   ปิโย  สิทธิ   สิริ   ยะสัง   ธัมมัง  หุลู    สวาหายะ

คาย ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘ บาตร ๑ ใบ ผ้าขาวยาววา เทียน ขาวเล่มบาท ๔ เล่ม เงิน ๔ บาท ธูป ๙ ดอก

ธรรมพระเจ้า ๙ โกฏิ์

            สหัสสเนตโตเทวินโท ทิพพะจักขุงวิโสยธิ อิกวิติ พุทธสังมิ โลกะวิทู

            ขออัญเชิญพระพุทธะมาสถิตประจำจิตข้า

ขออัญเชิญพระธัมมะมาสถิตประจำจิตข้า

ขออัญเชิญพระสังฆมาสถิตประจำจิตข้า

ขออันเชิญพระอรหันต์ มาสถิตประจำจิตข้า

นะมะนะอะนะอุ นะมะนะอะนะอุ  นะมะนะอะนะอุ  

ขออันเชิญองค์ฤาษีพิฆเณศ ขออันเชิญองค์ฤาษีประศุรารามมุนี

ขออันเชิญ องค์ฤาษีอิศวร

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษีพรหมคัมภีรภาพ

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษี เตโชนาคราช

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษี มะลัยโกฏิ์

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษี เอกภพ

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษี ทัศมงคล

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษีตาไฟ

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษีตาวัว

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษีนาลัย

ขออันเชิญ องค์มหาฤาษีนารอด จงได้เสด็จลงมานิยมสมพรแก่ฝูงข้าทั้งหลาย ฯลฯ

พุทธะนิมนต์ ธัมมะนิมนต์ สังฆะนิมนต์ นิมนต์ ๆๆ  นิมนต์ๆๆ สาธุๆๆ  พุทโธๆๆ โธๆๆๆๆๆ....................

            ห้องธรรม   พุทโธ    สาวัง   ปิโย  สิทธิ   สิริ   ยะสัง   ธัมมัง  หุลู    สวาหายะ

ธรรมพระอิศวร  ๙ โกฏิ์

            โอมศิษย์ โอมทรง ศิษย์บ่ได้ทรงอาจ ศิษย์บ่ได้ประมาทครู เห็นฮอยครูศิษย์กล้มกราบ ครูอาบใต้ ศิษย์บ่ได้อาบอาบเหนือ ศิษย์นำก่อ พ่อนำครู สาธุ สาธุ

สาธุ ๆ ข้าพเจ้าเก็บดอกไม้ลีลามาสมมาพระพุทธเจ้า พระธัมมะเจ้า พระสังฆะเจ้า พระอิศวรเจ้า ผู้ข้าขอบูชาธรรมอันเป็นแก้วประเสริฐส่องเฮืองฮุ่ง พระนางฟ้าก็นิยม นิยมสมพรทั้งเทพไท้เทวา มหาเทพเทวาธิเทวะก็นิยม  นิยมยินดีทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินก็นิยม นิยม ทั้งครุฑ นาค กินนร กินรี  ทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ มหาศักดิ์ นาคน้ำมหาราช ขุนนางท้าวพระยา ก็นิยม นิยมทั้งโลกโลกา นิยมทั้งแก้วมณีโชติ แก้วไพรฑูรย์ แก้ววิเชียรแก้วปัทมราช ก็นิยมทั้งเทพเทวา เทพดาอีกทั้งอนันแสนโกฏิจักรวาล สี่หมื่นโลกธาตุก็นิยม ข้าพุทธิเจ้าจึงขอเชิญอาราธนานิมนต์ พระธรรมเจ้า จงได้เสด็จลงมานิยมสมพรแก่ฝูงข้าทั้งหลาย พระนางเจ้าหว่านสวนบริบูรณ์ ทั้งเอกอุดมทั้งพืชพันธ์ธัญญาหาร ทั้งข้าว น้ำเงินทอง ก็ไหลมาดั่งหนึ่งนะที ไหลหลั่งล้นบ่ขาดสายบ่ขาดสูญ บ่ขาดเขินเป็นวังบ่บกได้แต่จักยาม ดูวิเศษ ใสงามบ่ขุนมัว สิ่งบ่ดี สิ่งฮ้ายก็หายเสีย ขอให้ลุกกะทายหายกะโทษ ทั้งเวรห้าฮ้อยประการนิพพานเทอญ

เกสา โลมา นักขา ทันตา ตะโจ

            ห้องธรรม   พุทโธ    สาวัง   นิยม   ยะสัง   สิริ  ปัญญา    ธัมมัง   หุลู    สวาหายะ

ธรรมเหพันชั้นนวโกฏิ

นะโม ๓ จบ

คาถาบูชาพระเจ้า

นะโมพุทธายะ

ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง ฯ

            สัมพุทโธ  ทิปะทัง  เสฏโฐ              นิสินโน  เจ  วะ  มัชฌิเม

โกณฑัญโญ  ปุพพะภาเค  จะ                     อาคเณยเย  จะ  กัสสะโป

สารีปุตโต  จะ  ทักขิเณ                                หะระติเย  อุปาลี  จะ

ปัจฉิเมปิ  จะ  อานันโท                    พายัพเพ  จะ  ควัมปะติ

โมคคัลลาโน  จะ  อุตตะเร              อีสาเนปิ  จะ  ราหุโล

อิเม  โข  มังคะลา  พุทธา                 สัพเพ  อิธะ  ปะติฏฐิตา

วันทิตา  เต  จะ  อัมเหหิ                   สักกาเรหิ  จะ  ปูชิตา

เอเตสัง  อานุภา  เวนะ                                 สัพพะโสตถี  ภะวันตุโน

                        อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง

                        นะมัสสะมาโน  ระตะนัตตะยังยัง

                        ปัญญาภิสันทัง  วิปุลัง  อะลัตถัง

                        ตัสสานุภาเวนะ  หะตันตะราโย

     

ขออันเชิญพระพุทธะมาสถิตประจำจิตข้า

ขออันเชิญพระธรรมะมาสถิตประจำจิตข้า

ขออันเชิญพระสงฺฆะ   มาสถิตประจำจิตข้า

*นะมะ นะอะ นะอุ     นะมะ นะอะ นะอุ     นะมะ นะอะ นะอุ

*นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง

 อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ

*นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง

นะอังมะกะ นะอะอะนะ นออะกอนอ นะออกะกะ

นะกะอังกะ นะออกะนะ นะนออะกอ อะอะนะนอ

นะกอกอนะ อะอะกะอะ  อะกออออะ  กะนอนะนะ

นมพท จภกส นอกอนอกะ เอหิจิตตํ มนุสสานํ ปิยํมะมะ

*มัยหังปุตโต ปุญญะวากะตา ภินิหาโร ภะวิสสะติ เทวะตะหิปาติง ปูเรตวา ปูวาปะหิตา ภะวิสสะตีติ

**โอมเหเหติงกาติ ธาพะธะนะ พะติเหเห

โอมเทวะ วะเท วริรุทิปิ รุทิกายุกะ ยุทิรุวิวะ

เทวะ จะ โอมกากา พันธุ พันธุ นะนะนินินุนุนินิ นะนะทุ

พะธะนะ พะกากา โอมเหเห เทวา เทวา นิรุตตัสสะ

นิรุตตัสสะ สัตตะรุนิ สัตตะรุนิวา เทวา

โอม นามะเหเห อะวะนะอะ ภะนัมมะเหเห มะภะโอม

*ติวาคะ ภะโธพุท นังสานุสมะวะ เทถาสัตถิระสา มะธัมสะริปุโรตะนุต อะทูวิกะโล โตคะสุโน  ปันสัมนะระจะชาวิชโธ พุทสัมมาสัมหัง ระอะวาคะ ภะโสปิติอิ

*อิติปิโส ภะคะวา อิติมันตา สุขาวะหา    อิติปิโส ภะคะวา อิติปิพุทธา สุขาวะหา

อิติปิโส ภะคะวา อิติ

*นะอุ นะอะ นะมะ   มะนะมะอุมะอะ    อะนะ อะมะ อะอุ  อุนะ อุมะ อุอะ

นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุโพธิยา นะโม วิมุตตานํ นะโมวิมุติยาฯ พุทโธ..พุทโธ...พุทโธ...โธ...โธ...โธ.....

            คาย ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘ ธูป ๙ ดอก เทียนขาวเล่มบาท ๑ คู่  ผ้าขาวยาววา ผ้าไตร บาตร ดอกบัว ๑๐ ดอก

            เงิน ๔ บาท

ธรรมพระเจ้าส่องโลกทั้งสิบ

นะโมพุทธายะ

ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง ฯ

            สัมพุทโธ  ทิปะทัง  เสฏโฐ              นิสินโน  เจ  วะ  มัชฌิเม

โกณฑัญโญ  ปุพพะภาเค  จะ                     อาคเณยเย  จะ  กัสสะโป

สารีปุตโต  จะ  ทักขิเณ                                หะระติเย  อุปาลี  จะ

ปัจฉิเมปิ  จะ  อานันโท                    พายัพเพ  จะ  ควัมปะติ

โมคคัลลาโน  จะ  อุตตะเร              อีสาเนปิ  จะ  ราหุโล

อิเม  โข  มังคะลา  พุทธา                 สัพเพ  อิธะ  ปะติฏฐิตา

วันทิตา  เต  จะ  อัมเหหิ                   สักกาเรหิ  จะ  ปูชิตา

เอเตสัง  อานุภา  เวนะ                                 สัพพะโสตถี  ภะวันตุโน

                        อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง

                        นะมัสสะมาโน  ระตะนัตตะยังยัง

                        ปัญญาภิสันทัง  วิปุลัง  อะลัตถัง

                        ตัสสานุภาเวนะ  หะตันตะราโย

  

            สาธุๆ มรรคผลธรรมพระเจ้าส่องโลกทั้งสิบ

พุทโธ พุทโธ พุทโธ  บรรลุ ๆ ขออาราธนาคุณพระพุทธเจ้าโคดมบรมครู พระองค์มานิยมสมพร ขออาราธนาคุณพระธัมมะเจ้าทั้งแปดหมื่นสี่พระธรรมขันธ์ ขออาราธนาพระธรรมเจ้ามาส่องแจ้งสรญาณให้ส่องซอด รู้แจ้งเห็นจริง ตลอดวันคืนทั้งยืนเดินนั่งนอนและลมหายใจเข้าออกรู้ขอให้รู้เห็นเหตุการณ์อดีตปัจจุบันและอนาคต ขอให้รู้แจ้งเห็นจริง ขอให้บังเกิดเป็นจักจุสรญาณนมพท จตุรภูตานัง อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ จักษุทิพให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยคุณพระธัมมะเจ้า ขอให้บังเกิดเป็นโสตสรญาณ ขอให้ได้ยินรับรู้ เสียง ที่มีในอดีตที่บังเกินในปัจจุบันและอนาคต โสตทิพย์ให้รู้แจ้งเป็นจริงด้วยคุณพระธรรมเจ้า ขอให้บังเกิดเป็นการสรญาณ กายทิพภาวแจ้ง รู้แจ้งเห็นจริงด้วยพระธรรมเจ้า ขอให้บังเกิดเป็น มโนทิพย์ ให้รู้แจ้งเห็นจริง ขออาราธนาพระธรรมเจ้าจงเปิด จักขุทวาร โสตทวาร กายทวาร มโนทวารให้เป็นสรญาณทิพ

ขอให้รับรู้แจ้งเห็นจริงทุกสัพพสิ่งอย่างด้วยทิพสรญาณองค์พระธรรมเจ้า อุอะ อะระหัง พุทธนิยมฯ

ธรรม  ๙  โกฏิ์

            สาธุ ๆๆ ฝูงข้าทั้งหลายขออาราธนา รุกขเทวดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยมราช พระเสตะมะ พระมหาปัฏฐานเจ้าทั้ง ๑๘ คัมภีร์ พระสังคินี พระลีมังคะ จงได้เสด็จมานิยมสมพรฝูงข้าทั้งหลาย เหล่านี้มีใจใสศรัทธา มีมาลายังดอกได้ หอมฮวยเฮ้ามาบูชาแห่งพระธรรมเจ้าทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ขอพึ่งคุณพระพุทธ ขอพึ่งคุณพระธรรม ขอพึ่งคุณครูบาร์อาจารย์เจ้า ฝูงข้าทั้งหลายเหล่านี้จึงเรียกว่า

            อิมินา สักกะเรนะ ตัง พุทธัง อภิปูชยามิ

อิมินา สักกะเรนะ ตัง ธัมมัง อภิปูชยามิ

อิมินา สักกะเรนะ ตัง สังฆัง อภิปูชยามิ

            อรหัง สัมมา สัมพุทโธ ภควา พุทธัง ภควันตังอภิปูชยามิ

สวากขาโต ภควาตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ

สุปฏิปันโน ภควาโต สาวกะ สังโฆ สังฆัง นะมามิ

   คุณมาตาปิตาคุณัง อะหัง วันทามิ ครูอุปัชฺฌายาจาริยะคุณัง อะหัง วันทามิ ปฏิปฏิบูชา ภะวันตุเม ฝูงข้าทั้งหลาย จึงเรียกว่า พุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา ขอบูชาคุณพระพุทธเจ้า ขอบูชาคุณพระธรรม จงเสด็จลงมานิยมสมพร ฝูงข้าทั้งหลายเหล่านี้ จึงขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีมั่น ศรีจันทา ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีตาไฟ ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีนาลัย ขอโอกาสอาราธนาแด่คุณพระฤาษีนารอด จึงได้เสด็จลงมานิยมสมพรแห่งฝูงข้าทั้งหลาย จึงเรียกว่า ติเยมัสนัง พุทธตึงตัง ธัมมตึงตัง สังฆตึงตัง ขออัญเชิญ พระอรหันตาเจ้าทั้ง ๑๘ พระองค์ตาเจ้าจงได้เสด็จลงมาตรัสส่องแจ้งสรญาณในขอบฟ้าและแดนดิน อุอะ อรหัง พุทธนิมนต์ ธัมมะนิมนต์ สังฆะนิมนต์ นิมนต์ ๆๆ นิมนต์ๆๆ สาธุๆๆ พุทโธๆๆๆๆ โธๆๆๆๆ

ธรรมพระธรรมพระเจ้า

เป็นองค์ธรรมบทหนึ่ง ที่คนโบราณให้ป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

อันเกิดจากภูตผีปีศาจได้ผลดียิ่ง

            ครูธรรมสมัยโบราณ หากผู้ใดได้เรียนธรรมนี้แล้วผู้คนจะนับถือลือชาว่าเป็นคนเก่งกล้าสามารถ เป็นที่เกรงขามของคนและผี ผู้ที่เรียนธรรมนี้จะเป็นคนเคร่งคัดในข้อปฏิบัติ คือมีศีล ๕ ประจำใจไม่ขาด หากจะสอนให้ลูกศิษย์ ก็จะต้องเลือกเฟ้น ถ้าเป็นคนเห็นแก่เล่นแก่กิน มีใจคอโหดร้ายสมานย์หรือไม่ถึงจะจ้าง หากเป็นดังนั้น อาจารย์ก็ไม่ยอมสอน เคล็ดลับอีกประการหนึ่งที่อาจารย์ถือ คือต้องให้เชื่อถือเพราะว่าเป็นปัจจัยสำคัญทำให้สำเร็จในทุก

เครื่องสักกะระครู

            ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘ เทียนขาวเล่มบาท ๑ คู่ เทียนเล่มเบี้ยง ๑ คู่ ขันธ์หมากเบ็ง ๗ บาตร ๑ ใบ พระขาวยาววา ๑ผืน ผ้าไตรจีวร๑ชุด  เงินคาย ๑๐๘ บาท

            ยกครูเรียนวันพฤหัสบดี  เรียนเสร็จแล้ว เอาพานหรือขันธ์ใส่เครื่องสักการะ ตั้งไว้บนหัวนอน กราบไว้สักการบูชาเป็นประจำ

            หากจะสอนลูกศิษย์ หรือจะไปรักษาคนไข้ รักษาเรือน ที่ไร่ นา ป่า ดง ห้วย หนอง คลอง บึง มีภูตผีปีศาจมารบกวน ท่านให้ยกครูยกคายให้ครบ

            เครื่องสักการะมี ๕ อย่างคือ ข้าวตอก ดอกไม้ ประทีป ธูป เทียน จัดให้ได้อย่างละ ๕ คู่ และ ๘ คู่ เรียกขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘

เริ่มไหว้พระบูชาครู   คาถาบูชาพระเจ้า

นะโมพุทธายะ

ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง ฯ

            สัมพุทโธ  ทิปะทัง  เสฏโฐ              นิสินโน  เจ  วะ  มัชฌิเม

โกณฑัญโญ  ปุพพะภาเค  จะ                     อาคเณยเย  จะ  กัสสะโป

สารีปุตโต  จะ  ทักขิเณ                                หะระติเย  อุปาลี  จะ

ปัจฉิเมปิ  จะ  อานันโท                    พายัพเพ  จะ  ควัมปะติ

โมคคัลลาโน  จะ  อุตตะเร              อีสาเนปิ  จะ  ราหุโล

อิเม  โข  มังคะลา  พุทธา                 สัพเพ  อิธะ  ปะติฏฐิตา

วันทิตา  เต  จะ  อัมเหหิ                   สักกาเรหิ  จะ  ปูชิตา

เอเตสัง  อานุภา  เวนะ                                 สัพพะโสตถี  ภะวันตุโน

                        อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง

                        นะมัสสะมาโน  ระตะนัตตะยังยัง

                        ปัญญาภิสันทัง  วิปุลัง  อะลัตถัง

                        ตัสสานุภาเวนะ  หะตันตะราโย

พระคาถาธารณปริตร

น้อมรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระเมตตาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ  แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ โดยกล่าวคำนอบน้อมนมัสการคือ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ๓ จบ
๑.พุทธานัง ชิวิตตัสสะ นะ สักกา เกนะจิ อันตะราโย กาตุง ตถา เม โหตุ

อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง อนาคตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง

ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง

๒.อิเมหิ ตีหิ ธัเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต

สัพพัง กายะกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง สัพพัง วจีกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง  สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง

๓.อิเมหิ ฉะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต

นัตถิ ฉันทัสสะ หานิ นัตถิ ธัมมะเทสนายะ หานิ นัตถิ วิริยัสสะ หานิ นัตถิ วิปัสสะนายะ หานิ    นัตถิ สมาธิธัสสะ หานิ นัตถิ วิมุตติยา หานิ

๔.อิเมหิ ทะวาทะสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต

นัตถิ ทะวา นัตถิ ระวา นัตถิ อัปผุฏฏัง นัตถิ เวคายิตัตตัง นัตถิ พะยาวะฏะมะโน นัตถิ อัปปฏิสังขารุเปกขา

๕.อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง

สัมมาสัมพุทธัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ กายะทุจริตตัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ วจีทุจริตตัง

นัตถิ ตะถาคะตัสสะ มโนทุจริตตัง นัตถิ อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ อนาคตัง เส  พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง

นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

นัตถิ สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

อิมัง ธาระณัง อะมิตัง อะสะมัง สัพพะสัตตานัง ตาณังเลณัง สังสาระ ภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง

๖.อิมัง อานันทะ ธาระณะปริตตัง ธาเรหิ วาเรหิ ปริปุจฉาหิ
ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเกนะ ลัคเคยยะ อัคคีนะ ทะเหยยะ นานาภะยะวิโก นะ เอกาหาระโก นะ ทะวิหาระโก นะ ติหาระโก นะ จะตุหาระโก นะ อุมมัตตะกัง นะ มุฬะหะกัง มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา

๗.ตัง ธาระณัง ปริตตัง ยถา กะตะเม

ชาโล มหาชาโล ชาลิตเต มหาชาลิตเต ปุคเค มหาปุคเค สัมปัตเต มหาสัมปัตเต ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

๘. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง สัตตังสะเตหิ สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

วัตเต อะวัตเต คันธะเว อะคันธะเว โนเม อะโนเม เสเว อะเสเว กาเย อะกาเย ธาระเณ อะธาระเณ  อิลลิ มิลลิ ติลลิ มิลลิ โยรุกเข มหาโยรุกเข ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

๙.อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะ นะ วุติยา สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

ทิฏฐิลา ทัณทิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา.

คำแปลพระคาถาธารณปริตร

๑.อันชีวิตแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย อันใครๆ ไม่อาจทำอันตรายได้ฉันใด

ขอชีวิตความเป็นอยู่แห่งข้าพเจ้า จงเป็นเหมือน เช่นกัน

 อันว่าญาณที่ไม่มีเครื่องกระทบของพระพุทธเจ้าผู้มีบุญมีย่อมมีในอดีต ในอนาคต ในปัจจุบัน

๒.อันว่ากายกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ

 อันว่าวจีกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ

 อันว่ามโนกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ

๓.อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของประโยชน์ที่ประสงค์ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีบุญ ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๖ ประการเหล่านี้

อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงแห่งการแสดงธรรม ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของความเพียร ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของวิปัสสนาญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงแห่งกามาวจรและรูปาวจรวิมุตติ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

๔.อันว่าการพูดเล่น ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ผู้ประกอบด้วยคุณธรรมทั้งหลาย ๑๒ ประการเหล่านี้

อันว่าการพูดพลั้งเผลอโดยขาดสติ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าความไม่แพร่หลายในเญยยะธรรม ๕ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าการกระทำใดๆ อย่างผลุนผลัน โดยไม่การพิจารณาเสียก่อน ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าความมีใจวุ่นวายด้วยกิเลส ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าการกระทำที่ไม่มีอุเบกขาในเตภูมิสังขาร ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

๕.อันว่าความเคารพนอบน้อม ขอจงมีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๑๘ ประการเหล่านี้

อันว่ากายทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต

อันว่าวจีทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต

อันว่ามโนทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต

อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ

ย่อมไม่มีในอดีต

อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในปัจจุบัน

อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในอนาคต

อันว่ากายกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่าวจีกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่ามโนกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่ามโนกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันว่า ธารณปริตร นี้ ไม่มีเครื่องเทียบ ไม่มีเครื่องเสมอเหมือน เป็นที่ต่อต้าน                            เป็นที่หลบซ่อนของสัตว์

ผู้ที่กลัวภัยในสังสารวัฏทั้งหลาย อัคคัง ประเสริฐ มหาเตชัง มีเดชมาก

๖.ดูกรอานนท์ ท่านจงท่องจดจำ สอบถาม ซึ่งธารณปริตรนี้

อันว่ากายของผู้ท่องสวดมนต์ธารณปริตรนี้ ไม่พึงตายด้วยพิษงู พิษนาค

ไม่พึงตายในน้ำ อันว่าไฟไม่พึงไหม้เป็นผู้พ้นภัยพิบัติต่างๆ

ใครคิดทำร้ายในวันเดียวก็ไม่สำเร็จ ใครคิดร้ายทำลายในสองวัน สามวัน สี่วัน...                                 ก็ไม่สำเร็จ

ไม่พึงเป็นโรคหลงลืม ไม่พึงเป็นบ้าใบ้ อันอมนุษย์ทั้งหลาย ไม่สามารถเบียดเบียนได้

๗.อันว่าธารณปริตรนี้ มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ

ชาโล มีอานุภาพเหมือนพระอาทิตย์ ประชุมกัน ๗ ดวง ที่ขึ้นมาในเวลาโลกาพินาศ

มหาชาโล มีอานุภาพเหมือนมุ้งเหล็ก ที่สามารถป้องกันภัยจาก เทวดา อินทร์ นาค ครุฑ ยักษ์ เป็นต้น

ชาลิตเต มีอานุภาพประหารศัตรูทั้งหลาย

มหาชาลิตเต มีอานุภาพให้พ้นจากกัปทั้ง ๓ คือ โรคันตรกัป, สัตถันตรกัป และทุพภิกขันตรกัป

มีอานุภาพให้พ้นจากโลกต่างๆ ในเวลาปฏิสนธิคือ การเป็นใบ้ เป็นพิการ เป็นคนหูหนวก

อีกทั้งไม่พึงตกต้นไม้ ตกเหว ตกเขาตาย สามารถได้สมบัติที่ยังไม่ได้

ทรัพย์สมบัติที่ได้มาแล้วก็จะเจริญขึ้นโดยความเป็นจริง สามารถประหารความมืด แล้วได้ความสว่าง

๘.ดูกรอานนท์ อันธารณปริตร ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงตรัสไว้พึงสมาคมคนดี ไม่พึงสมาคมคนชั่ว

พึงนำมาซึ่งกลิ่นและรสอันเป็นธรรม พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจดี ไม่พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจร้าย พึงทำกายให้เป็นกายดี พึงนำมาแต่สิ่งอันเป็นกุศล ไม่ถึงนำมาซึ่งสิ่งอันเป็นอกุศล พึงฟังแต่สิ่งที่ดีไม่พึงฟังสิ่งที่ไม่ดี พึงเห็นแต่นิมิตดี ไม่ถึงเห็นนิมิตร้าย
โยรุกเข ต้นไม้ที่ตายแล้วสามารถฟื้นขึ้นมาได้

มหาโยรุกเข ต้นไม้ที่ยังเป็นอยู่ ก็ทำให้เจริญงอกงามโดยความเป็นจริง

สามารถประหารความมืด แล้วได้ความสว่าง

๙.ดูกรอานนท์ อันธารณปริตรนี้ สามารถรู้ความคิดร้ายของผู้อื่น

อาวุธต่างๆ มีเครื่องประหาร เช่น มีด หอก ปืน ไฟ เป็นต้น ไม่สามารถทำอันตรายได้

มันติลา สามารถทำน้ำมนต์คาถา ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น สามารถประหารโรคต่างได้ และโรคร้ายแรงต่างๆ ไม่อาจทำอันตรายได้

ทุพพิลา สามารถหลุดพ้นจากเครื่องผูกมัด

ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้ ขอความสวัสดีมีชัยจงมีแก่ข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อเถิด

            สาธุ อัคคีทานัง พหูบุปผัง สิเนทัตวา อสีติกัปปโกฏิโย อภิรูโป มหาปัญโญ ธาเรนโต ปิฏกัตตยัง นิพพานัง ปรมัง สุญญัง นิพพานัง ปรมัง สุขัง

..  อินทะสัจจัง มหาอินทะสัจจัง เทวะสัจจัง มหาเทวะสัจจัง พรหมะสัจจัง มหาพรหมะสัจจัง อิสีสัจจัง มหาอิสีสัจจัง มุนีสัจจัง มหามุนีสัจจัง ปุริสะสัจจัง มหาปุริสะสัจจัง   จักกะวัตติสัจจัง มหาจักกะวัตติสัจจัง พุทธะสัจจัง ปัจเจกะพุทธะสัจจัง อะระหันตะ  สัจจัง   สัพพะสิทธิ วิชชา จะระณะสัจจัง สัพพะโลกาธิปะฏิญาณะสัจจัง  สัพพะโลกะจะริยะ ญาณะสัจจัง เอเตนะ สัจเจนะ เอเตนะ สัจจะวะจะเนนะ สุวัตถิโหตุ มัยหัง สะวาหายะ
นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะ เสยยะถีทัง หุรู หุรู หุรู สะวาหายะ ฯ

คาถาบูชาหลวงปู่เทพโลกอุดร

            โย อะริโย มหาเถโร อะระหัง อภิญญาธะโร

ปะฏิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก

            พะหู เมตตาทิวาสะโน มหาเถรานุสาสะโก

อะมะตัญเญวะ สุชีวะติ อภินันที คุหาวะนัง

            โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อภิปูชิโต

อิธะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย

            ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ

ปะระมะสารีริกะธาตุ วะชิรัญจาปิวานิตัง

            โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร

อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ

            สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง วะเรนะ สุภาสิตัง

โลกุตตะโร จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต

            โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

มหาเถรานุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

บทบูชา

     อุตะเร อริโย นามะ วันทิตาเตจะ อัมเหหิ จะปูชิตา เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเม  เมตตา ลาโภ นะโส มิยะ อะหะพุทโธ  เมตตา ลาโภ นะโส ทะยะ อะหะพุทโธ

นะโมพุทธายะ นมพท จะภะลาโภ นิโททะโย อะหะ  พุทโธ นะโมพุทธายะ อิตติถะลาโภ เอกะลาโภ  ชะโยนิจจังฯ

อธิฐานฤทธิ์

            อะอุมะ พุทโธ นะโมพุทธายะ  นะมะพะธะ รัตตะนะตะยา นุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเม อิทธิ อิทธิ ฤทธิ ฤทธิ สิทธิ สิทธิ ชัยยะ ชัยยะ ลาภะ ลาภะ อุตระเรนะ พุทธะนิมิตตัง อิติ ธัมมะนิมิตตัง อิติ สังฆะนิมิตัง อิติฯ

            ผู้ที่เรียนมนต์จะต้องขอขมาโทษ ที่ล่วงเกินพระรัตนตรัย เกิดจากกายอัน เหยียบย่ำ กล้ำกราย พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ อันเกิดได้จากวาจาเช่น หลบหลู่ ดูถูกเหยียดหยาม พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เกิดได้จากใจ เช่น เคียดแค้น อาฆาตมาดร้ายต่อพระพุทธ  พระธรรมและพระสงฆ์ เหล่านี้จะเป็นโทษถ้าเราไม่ขอขมาโทษพระรัตนตรัยเสียก่อน จิตใจของเราจะไม่บริสุทธิ์ เมื่อใจไม่บริสุทธ์การเรียนมนต์ก็มไม่ขลัง

คำขอขมาพระรัตนตรัย

            สาธุ อัจจะยัง อัจจะโย โน เม ภันเต อัจจะคะมะ ยถา พาเล ยถา มุฬเห ยถา อกุสเล เม มะยา พะละตา จิตตา อะคาระวะอะคาระวา พุทธะติมะ ธัมมะติมะ สังฆะติมะ มะมะ รตนัตตเย กาเยน วาจายะ มะนะสา โน ภันเต ภินิพุทธัง ภินิธัมมัง ภินิสังฆัง อัจจะยัง อัจจะยะโต ปฏิคัณหาตุ อายะติง ภันเต  สังวะเรยยามะ สักกัจจะคะรุ คารวะ เอตา อักหากัง สุขัง หิตายะ มัคคะผละ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อตีตะโทสัง ปัจจุปันนะโทสัง กายะกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง

            ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยกายวาจาใจทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ดี ข้าพเจ้าเป็นบาปเพราะโลภ โกรธ หลง ก็ดี บาบในอดีตและปัจจุบันก็ดี ขอแก่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงมาระงับให้กลับหายไป ในเมื้อนี้ วันนี้ ยามนี้ ก็ข้าเทอญ

กราบอาราธนาคุณพระ

            พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ท่านดีอย่างไร ท่านดีในทางป้องกันรักษา และปราบปรามศัตรูคู่มิตรส่วนตัวของเราผู้นับถือท่าน ไม่มีฤทธิ์ เดชศักดานุภาพพอที่จะป้องกันรักษาสิ่งเหล่าร้ายได้ จึงได้เชิญเอาพระคุณของท่านมาคุ้มครอง

บทอาราธนาคุณพระ

สาธุ สาธุ สาธุ โอกาสะ

ข้าพเจ้าขออาราธนาพระกกุสันโธเจ้า จงเสด็จลงมาบังอยู่ตาข้างซ้าย แห่งข้าพเจ้าเทอญ ข้าพเจ้าขออาราธนาโกนาคมเจ้า จงเสด็จลงมาบังอยู่ตาข้างขวา แห่งข้าพเจ้าเทอญ                   ข้าพเจ้าขออาราธนากัสสโปโคตรโมเจ้า จงเสด็จลงมาบังอยู่หูทั้งสอง แห่งข้าพเจ้าเทอญ ข้าพเจ้าขออาราธนาพระศรีสักยะมุนีเจ้า  จงเสด็จมาบังอยู่นาคี แห่งข้าพเจ้าเทอญ                          ขออาราธนาคุณ พระธรรมเจ้าทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์จบพระไตรปิฏก จงเสด็จมาบังอยู่เกษเกล้าเกศาแห่งข้าพเจ้าเทอญ

ข้าพเจ้าขออาราธนาพระศรีอริยะเมตตรัยเจ้า มาสถิตอยู่ชิวหาปลายลิ้นแห่งข้าพเจ้าเทอญข้าพเจ้าจะทำการอันเป็นมุงคุณสิ่งใดๆ ก็ดีขอแก่พระคุณเจ้าทั้งหลายจงมาประสิทธิ์ประสาทให้แก่ข้าพเจ้าในเวลาเมื่อนี้ วันนี้ก็ข้าเทอญนิพพานะปัจจะโย โหตุ

๕.อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต นะโม สัตตันนังสัมมาสัมพุทธัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ กายะทุจริตตัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ วจีทุจริตตัง

นัตถิ ตะถาคะตัสสะ มโนทุจริตตัง นัตถิ อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ อนาคตัง เส  พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง

นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

นัตถิ สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

อิมัง ธาระณัง อะมิตัง อะสะมัง สัพพะสัตตานัง ตาณังเลณัง สังสาระ ภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง

๖.อิมัง อานันทะ ธาระณะปริตตัง ธาเรหิ วาเรหิ ปริปุจฉาหิ
ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเกนะ ลัคเคยยะ อัคคีนะ ทะเหยยะ นานาภะยะวิโก นะ เอกาหาระโก นะ ทะวิหาระโก นะ ติหาระโก นะ จะตุหาระโก นะ อุมมัตตะกัง นะ มุฬะหะกัง มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา

๗.ตัง ธาระณัง ปริตตัง ยถา กะตะเม

ชาโล มหาชาโล ชาลิตเต มหาชาลิตเต ปุคเค มหาปุคเค สัมปัตเต มหาสัมปัตเต ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

๘. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง สัตตังสะเตหิ สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

วัตเต อะวัตเต คันธะเว อะคันธะเว โนเม อะโนเม เสเว อะเสเว กาเย อะกาเย ธาระเณ อะธาระเณ  อิลลิ มิลลิ ติลลิ มิลลิ โยรุกเข มหาโยรุกเข ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

๙.อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะ นะ วุติยา สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

ทิฏฐิลา ทัณทิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา.

บทนมัสการคุณพระ

อิติปิโส ภควา มือของข้าทั้งสิบนิ้วยกขึ้นเหนือระหว่างคิ้ว กระหม่อมน้อมนมัสการ ขอจิตเหนี่ยวถึงคุณพระเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระบิดา ๒๑  ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระมารดา ๑๒ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ๕๖ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระธรรม ๑๘ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระสงฆ์เจ้า ๑๔ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระอริยเจ้า ๓๐ ทัศ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณน้ำพระคงคา๑๒ คุณนางธรณี ๒๑ คุณไฟ ๖ คุณลม ๘ คุณอากาศ ๑๐ ทัศ อักษร ๔๑ คุณอัสสวาต ปัสสวาต คุณมณี ๑ คุณสาวก คุณศีล ๕ คุณศีล ๘ คุณศีล ๑๐ คุณศีล ๒๒๗ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระฤาษีตางัว ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณตาควาย ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณตาไฟ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระฤาษีนารายณ์ ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระฤาษีนารอด ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระฤาษีทั้งร้อยแปดหมื่นสี่พันตนจงทรงฤทธีมาประสิทธิ์แก่ผูข้า ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระโมคคัลลาน์ ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระสารีบุตร ข้าพเจ้าจะระลึกถึงคุณพระมหากัจจายนะเถระ คุณสามเณร คุณตรีนิสิงเห คุณพระอินทร์ คุณพระพรหม คุณพระไตร พระพรหมวิหารทั้งเจ็ดแสนจักวาล ขออย่าให้มีมารผจญสองเหมือนดังแสงพระอาทิตย์ เมื่อออกมานั้นนิพพานปัจจะโย โหตุ

            อิติปิโส ภควา ข้าพเจ้าจะไหว้พระธรรมเจ้าพระสงฆเจ้ายกมือขึ้เหนือเกษเกล้าเกษาตามประเพณีมาแต่ประถมไหว้พระอินทร์ พระพรหม พระยมแลพระกาฬ พระจตุโลกบาลทั้ง ๔ พระธรณี พระศรีอริยเมตตรัยโยเจ้า บอกเราเล่าภาวนาว่า พุทธังเจ้าจงมาเป็นกำแพงแก้วมารักษาตัวข้าพระเจ้า ไหว้พระธรรมเจ้า จงมาเป็นกรรมแพงเพชรเจ็ดชั้นมารักษาตัวข้าพเจ้าไหว้พระสังฆังเจ้า จงมาเป็นเสนาแลอำมาตย์ รักษา ตัว ข้าพเจ้า ฆเฏสิ ฆเฏสิ กิงการะนา ฆเฏสิ อหังปิตัง ชานามิ ชานามิ

             อิติปิโส ภควา มือของข้าทั้งสิบนิ้วยกขึ้นเหนือระหว่างคิ้ว กระหม่อมน้อมนมัสการ ข้าพระเจ้าจะไหว้ถึงคุณพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ทรงพระนามตั้งแต่ พระกุกุกสันโธ โกนาคมโนเป็นเค้าตราบต่อเท่าถึงพระศรีอริยเมตตรัยโยเจ้า ขอพระองค์ได้มาปราบปรามฝูงมารไพรี ฝูงฝีบริศาจ ราชทูต ผีภูตแลผีพาย ผีเผดอสุรกายนานาต่างๆ อย่าได้มากระทำฮ้าย ให้สูออกหนีเสีย สูอย่าได้มากระทำให้เป็น พยาธิ์ อาฆาตโรคาให้หายสูญ ทั้งคุณแลไสย์เขาใช้มาเบื้องต่ำแลเบื้องบน แก้ทั้งผีทั้งคน ผาบมนต์แลอาถรพ์ ขมันยักษ์และอวิชชา ขอสัพพัญญูเจ้าจงมาตั้งพิธี จงให้ไปตักเอกน้ำอยู่ในวัดอันมีโบสถ์ จักได้เอามาล้างโทษทัณฑ์อันตรายกายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง ข้าพเจ้าจึงไปนิมนต์พระสงฆ์เจ้า มานั่งสวดพระพุทธมนต์ จับเอา ด้วยมุงคุณวงไว้สามชั้น ให้มาช่วยป้องกันอันตราย พุทธัง จักกวรัง ธัมมัง จักกวรัง สังฆัง จักกวรัง ฝูงผีปีศาจราชภูตสูเอย สูงจงอะเฮ่ยหนี ออกไปภายนอก พ้นขอบเขตจักรวาล อะหัง วันทามิ ประสิทธิ เม อะ อา เอ โก กะกา อวิชา นาถัง อุปปันนัง กามนัสสะ ปัตตินามะ ปัญจามัง สวาหะ นะโม พุทธายะ วันทามิ สิทธิ กิจจัง สิทธิการิยังตะถาคะโต สิทธิเตโช ชโย นิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง  สิทธิ กิจจัง สิทธิ กัมมัง ประสิทธิเม   สิทธิลาภัง นะระปูชิโต สัพพโกธา วินัสสันตุ กะคะ คุณา กะกุนัง ภยาวิเสโส ติโย มารรูโป อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ นโมพุทธายะสังวิจฉาวุฎฐิ เทยยะ สุขะ คะมะนะ สัพเพ ยักขา ปลายันติ คัจฉะ อะมุมหิ โอกาเส ติฏฐะหิ   พระพุทธะอุด พระธรรมะอุด นะอยู่ตาซ้ายโมอยู่ตาขวา พุทอยู่บ้าน ธาอยู่อก ยะอยู่หลัง อสังวิสุโลปุสะพุภะ อะสุวิสัง ธัมมัสสะวะนะกาโล อยัมภะทันตา     

ปุ สะ พุ ภะพุ สะ มะอะอุ นะมะกะ ปะระมะอุ อาคะขัง ปึงปัง มาระปัตติ ขมันติ โอมนะ นะโมพุทธายะ ชินะสา หิราชะ พระบาททรงศีล สิทธิจักราวุธดีวงวิเศษ เข้าในเขตจักวาล ผีอยู่ในสงสารอ่อนน้อม พร้อมกันเข้ามาสู้สงคราม พระภูบาลฤทธีเกล้า อาวุธท้าแกว่งไกวไหวคีคื่น ผีทั้งหลายตื่นเต้นเนืองนัน พากันปองขาบไหว้ตนแก่นให้ทรงธรรม ฤทธีธรรมเหาะหอบไปใกล้เขาเสมรภูดอย เสด็จผงเถ้าวันอูดเอ้าอนธกาล ฝูงหมู่มารแน่นสั่นสาย อินทร์พรหมพร้อมถวายสาร ยักโขกาฬกราบไหว้ครุฑนาคกลัวเกรง ควรคึดยากลำบาก           ย้านกลัวตาย   แคลนสั่นสายฮ้องไห้เข้ามาไหว้ขอยอม เอาหัวมาจุแท่น ย้านต้องแล่นเข้ามาหา ภาวนาว่า นะมะสิทธิทรงแท่น จักราวุธ แกว่งไกวไหวไปถืกวังใสทั้งห้า แม่น้ำเบ่งบ้าเป็นฟองผีไหลนองตายก่าย ตายค้างค่วยแคมโชม  หัวฟูจมจุ่มน้ำ ไหลเข้าหม้อใหญ่ เบ็ดใส่เวจี แสนพันปีออกบ่ได้ ไฟไหม้ลุกเป็นผง แผ่นดินดานสนั่นอยู่คีคื่น ชั้นฟ้าตื่นคีเค็ง แสงเต็งเต็มขอบโลกโลกา จักราวุธมาคือเก่าพระจึงเล่าเทศนา  เป็นดวงคาถาอันวิเศษ ด้วยเดชพระปัญญาปารมี มีต้นว่า พุทธรัตนัง ธัมมรัตนัง สังฆะรัตนัง อรุณา คัจฉะ วสันติ วุจจาปิ อาพูวะ กัสสาติ สัพพอันตรายา วินัสสันติ พุทธวะ ธัมมวะ สังฆวะ วะวะ ตัวนี้เป็นเค้าเป็นเจ้ากว่าโลกโลกา ฝูงหมู่เทวดารักษาบ่ขาดประโยชน์ด้วยกล้าแข็ง เป็นแสงใสบ่ขาดเลื่อมมาบๆ ยิ่งกว่าแสงตะวัน มาฟันหัวผีแตกทลายเปี่ยง ผีบ่ฮ้องเฮียกได้ เหตุกูได้พระโองการมากูจะแผ่เมตตา พระกรุณาให้กูข่ม จ่มมื้อ เช้าให้ผีตาย จ่มมื้อสายให้ผีล้ม ให้ผีทั้งหลายยอมกราบไหว้ เพิ่งตนกู นะโม ประสิทธิ เม

๕.อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง

สัมมาสัมพุทธัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ กายะทุจริตตัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ วจีทุจริตตัง

นัตถิ ตะถาคะตัสสะ มโนทุจริตตัง นัตถิ อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ อนาคตัง เส    พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง

นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

นัตถิ สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

อิมัง ธาระณัง อะมิตัง อะสะมัง สัพพะสัตตานัง ตาณังเลณัง สังสาระ ภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง

๖.อิมัง อานันทะ ธาระณะปริตตัง ธาเรหิ วาเรหิ ปริปุจฉาหิ
ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเกนะ ลัคเคยยะ อัคคีนะ ทะเหยยะ นานาภะยะวิโก นะ เอกาหาระโก นะ ทะวิหาระโก นะ ติหาระโก นะ จะตุหาระโก นะ อุมมัตตะกัง นะ มุฬะหะกัง มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา

๗.ตัง ธาระณัง ปริตตัง ยถา กะตะเม

ชาโล มหาชาโล ชาลิตเต มหาชาลิตเต ปุคเค มหาปุคเค สัมปัตเต มหาสัมปัตเต ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

๘. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง สัตตังสะเตหิ สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

วัตเต อะวัตเต คันธะเว อะคันธะเว โนเม อะโนเม เสเว อะเสเว กาเย อะกาเย ธาระเณ อะธาระเณ   อิลลิ มิลลิ ติลลิ มิลลิ โยรุกเข มหาโยรุกเข ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

๙.อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะ นะ วุติยา สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

ทิฏฐิลา ทัณทิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา.

            หากที่ไร่ที่นา ที่บ้านที่สวนเข็ดขวาง เกิดการเบียดเบียนจากภูตผีปีศาจ หรือปอบเป้าโพงผีทำให้เกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย และต้องการจะขับไล่ให้ออกไปให้ เสกห้องจืดทำน้ำมนต์รด

  

   ห้องจืด

พุทโธจืด ธัมโมจืด สังโฆจืด กูสิจืดทั้งเฮือน  กูสิจืดทั้งซาน กูสิจืดทั้งย้าว กูสิจืดทั้งเสาไม้ มอน กูสิจืดทั้งเสาไม้แก่น กูสิจืดทั้งแผ่นปฐพี กูสิจืดทั้งผีพญามาร อันมีมือถือเครื่องอาวุธหรอก ดาบหลาวแหลมมีคมอันกล้า ขี่ช้างม้าย่างเหยียบแผ่นฟ้าเข้ามาเนืองนัน พระจอมธรรม์แจ้งจอด คิดถึงยอดบารมี  วันทามิ ข้าจะไหว้ยังพระบารมีเป็นเค้า ด้วยเดชะพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า พระปัจเจกโพธิเจ้า พระธรรมเจ้า แปดหมื่นสี่พันพระองค์ ขอให้ลงมาช่วยจืด ผีหน้า ลายพระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีพรายแลผีเป้าพระธรรมเจ้าจืดเสีย เป้าโพงผีพระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีอันอยู่ในคีรีมาเที่ยวบ้าน พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีโพงปอบว่านกระสือ พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีถือไฟแลแงงแว่นพระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีลุกแล่นมาเข้ามาเทียมคน พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีบินบนมาเทิงอากาศพระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีนาคราชผีเงือกผีงู   พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีหุนลูบ่ฮู้จักคุณรพระศาสนาผีญาติกาล่อลวงกินไก่ พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีเป็นอะรักอะรอและใส่มาเข็ดแข็ง พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีแม่มกล่าวถ้อยมุสา พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีมเหสักขาเทพายอตนข่มท่าน พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีภูตผีพราย ผีตายปัจจุบัน เขาฆ่าเขาฟัน ช้างแทง ควายชน พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีหมอมนต์ทำศาสตร์ พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีมักศูน บ่าเหล้าก้องพอพัน พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีมักฮบมักงันเป่าปีเป่าแคน พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีข้าสามแสน พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีแมนตาทอก พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีหุนลู บ่รู้จักคุณพระศาสนา ผีอันธพาลลักลานกินเหล้า พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีมนต์ย่าเฒ่าออกดำออกแดง พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีพรายจำนำแซกเลือด แซกลม พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีมีมนต์ดลอาคม พระธรรมเจ้าจืดเสีย ผีเที่ยวโลกโลกา ใจบาปพาลพาโล ฟ้อนโงฟ้อนแง่น พระธรรมเจ้าจืดเสียสิทธิพระพุทโธ มาช่วยจืด สิทธิพระธัมโมมาช่วยจืด สิทธิพระสังโฆเจ้าแปดหมื่นสี่พระองค์ พระจึงปลงประสิทธิให้แก่นกูแล้ว กูจักจืด ไปเบื้องซ้ายได้สามพันวา กูจักจืดไปเบื้องขวาได้สามพันโยชน์ สิทธิพระพุทธังเจ้ามาช่วยเกษ สิทธิพระธัมมังเจ้ามาช่วยเกษ สิทธิพระสังฆังเจ้ามาช่วยเกษ อหัง วันทามิ ปสิทธิ เม อสังวิสุโลปุสะพุภะ นะโมพุทธายะ กูซิขับสูหนีทั้งผีพระแลผีเถร ทั้งผีเณรทั้งผีผู้เฒ่า กูซิขับสูหนีทั้งผีเป้าแลผีโพง กูซิขับสูหนีทั้งผีอัปมงคล มันมาลอบลี้ลวงคนกูซิขับสูหนีทั้ผีโป่งและผีหนอง ทั้งผีสยองบินบนมาทั้งอากาศ อาวุธจักฟัน พระขรรค์กูจักฟาด ดาบด้ามแก้วกูจักแกว่งกวัดไกว ไกวกวัดไปให้กูแล้ว พระเจ้าเมืองนีรพานเป็นพยานมาสู่ ปสิทธิ มังคละผาบ อุบาทว์ปีศาจผีดิบ ในสี่ทีปชุมภู โอม หุนรู หุนรู สวาหายะ

ห้องแก้สารพัด

            พุทธัง นิมิตตัง ธัมมังนิมิตตัง สังฆังนิมิตตัง พระพุทธนิมิตตัง อังคฤกษ์มาแต่สวรรค์ รดใส่คนไข้หายเสี้องบ่นานเหมือนพระจันทร์ผุดผ่องขึ้นมา พระธัมมัง นิมิตตัง เป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ รดใส่คนไข้หายเสี้องบ่นานเหมือนพระจันทร์ผุดพุ่งขึ้นมา พระสังฆังนิมิตตัง เป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ ไหลมาแต่กระอูบแก้วเมืองนีรมาน ถ้ารดใส่เกษเกล้าเกศา อัฐมาเป็นเค้าเก้าไตรดึงสา รดใส่หมาดพลูเป็นสวนอุทยาน รดใส่เฮือนชานคนผีมนต์เฮือนก็เพพัง ทะลังทะลาย พ่ายออกหนีเมือ นอกขอบจักรวาล อหัง วันทามิ ปสิทธิ เม

            โอมสิทธิเยมหาเถรตำแย โอมสิทธิแท้ กูจักมีฤทธิ์เที่ยงแท้ กูจึงแก้พิษแสดง แก้ไข้งาช้างตะรางเหล็กเพชร แก้ไข้ผีแถนผีเท็จ ผีเฮ็ดผีบริศาจนานาต่างๆ พระศรีอริยะเมตไตโยเจ้า แต่งให้กูมาแก้ กูจึงลงมาแก้ พิษหมาบ้านนานาต่างๆ แก้พิษป่วยไข้ พวนนอกหนาวใน แก้ไหม้ธาตุขันธ์ แก้บ้วงนัคคบาส บริศาจกุมภัณฑ์ แก้มนต์แก้ยันต์แก้อาถรรพ์ขมันยักษ์ แก้ทั้งผีอันยืนประตูคันคูนาแลนอกบ้าน แก้ทั้งผีฮ้ายอันเฮ็ด พิรุธพระศาสนา จึงให้ไปตักน้ำอยู่ในวัดอันมีโบสถ์ มาชำระล้างโทษทัณฑ์อันตราย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง ยังเจ้าตนเจ้าตัวทั้งหลาย หากได้กระทำผิดแล้วแต่ชาติก่อนภายหลัง น้ำใจเขายังตั้งต่อจึงให้ข้าพเจ้ามานั่งสวดมนต์พระพุทธมนต์ จักให้ตั้งมงคลไว้สามชั้น ให้มาช่วยป้องกันกำจัดอันตราย พุทธัง จักกวรัง ธัมมัง จักกวรัง สังฆัง จักกวรัง ฝูงผีปีศาจราชภูตสูเอย สูจงอะเฮ่ยหนีออกไปไกล ภายนอกพัน ขอบเขตจักรวาล อหัง วันทามิ ปสิทธิ เม

            โอมสิทธิพระฤาษีทั้งสอง เธอจึงให้กูไปนิรมนต์มหาเถรตำแย โอมสิทธิแท้ กูจึงมีฤทธ์เที่ยงแท้ กูจึงจักแก้สิทธิมนต์ แก้สิทธิคน แก้อิทธิฤทธิ์ผีแก้อิทธิฤทธิ์ยนต์ แก้โคณะมหังษา นะมะพะธะ แก้ฮูปกินรีกินกินรอน แก้สิทธิกร แก้หนบนแก้ฮูปคนเข้าฟันในป่าช้า ปิ่นหน้าแล ปิ่นหลังให้ฮักให้ชัง ให้กือกองมาคือเก่า แก้ทิพนามจรใจ มันฮ้องให้ป่วนปิ้นไปมา แก้ดอกจำปา แก้มัดสะไลเหิน แก้ไลเติน ชนแสยงหัว อิติปิ ปริยันตัง นะไม่เห็น ผีมำระทำเข็ญ วนัสสันตุ นะโม พุทธัสสามิ กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา บอกผีให้รู้จักธรรม พรหมทานัง เทวเทโว สัพเพ ยักขา ปลายันติ

            ห้องแก้สารพัดนี้ให้ในเวลารดน้ำมนต์ แก้ปอบ เป้าโพงผี ผีไท้ ผีแถนผีป่า ผีดงผีภู ผีเขา ผีห้วย ผีวังปลา และผีที่มาเบียดเบียน ทำนี้มนต์รด ผีออกแลฯ

ห้องหิริโอต

            หิริโอตตัปปสัมปันโน สุกโก ธัมโม สมาหิโต สันโต สัปปุริสโลเก เทวธัมโมติวุจจเร สัพพสัตตานัง อินทเสฏฐัง พรหมทานัง เทวเทโว สัพเพ ธัมมา ปลายันตุ หิริโอตตัปปสัมปันนา สุกกา ธัมมา สมาหิตา สันโต สัปปุริสาโลเก เทวธัมฺมาติ วุจจเร นะโม ภควาติ ยัง มหารตนัง จังคุลิจักวาฬ สาริปุตตะ มหาโมคคัลลาโน กัสสโป สหัส สลัก ขณัง โพธิปัลลังกัง อสักยามารเสนัง พุทธา นุภาเวน ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ โอมทุเร สวาหายะ สหัสลัง สหัสสลักขณัง สหัสสคุรุคณสหัสส ภวาปติ สหัสสยานัง โอมยุปะ ยะกะตะยา ปัตถะระ มัตถตุ รวิ คณา นิยา ตักเถน นาทุกขะวินาสโตปิ นีลา ปัพพตราชา สัพเพ ปุรยา พุทธา อานุภาเวนะ สัพเพ ปุรยา ธัมมา อานุภาเวนะ สัพเพ ปุรยา สังฆา อานุภาเวนะ นะ ปฐวี พะละวะ สุสัมปันโน โพธิปัลลังกัง อสักยมารเสนัง สุมโน โคตโม อิติปิ  โส ภควา อิติปิ นะ มันตาปิ สุขาวหา พุทธคุณณัญจะเตเชนะ มันตาปิ สุขาวหา ธัมมคุณัญจะเตเชนะ สุขาวหา สังฆคุณณัญจะเตเชนะ สุขาวหา  พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ  โอมทุเร สวาหาย นะโม ปฐวี วะวะ สุทัสสี สัมปันโน โพธิปัลลังกัง อสักยมารเสนัง สุวะภูมัง พะตา คะณา คุรุวะ มหาปัตตกา กปิสาสัง มหายัตตกาวา ตาวติงสาเทวา เทวคุรุวจนะ ขะระเยวะ มาสุระ วิชะยะ ปัตติ สวาหายะ โอม หุนรู หุนรู สวาหายะ

            ห้องหิริโอตนี้ให้ขับภูตผีปีศาจ แล้วเสกห้อมล้อมรักษาไว้ เพื่อมิให้ภูมิผีปีศาจมาเบียดเบียนอีกเป็นกำแพงแก้ว ๓ ประการคือ พระพุทธ พระธรรม พระสังฆ์ เป็นกำแพงป้อง ทุกข์ โศรก โรค ภัย สรรพอันตรายและ อุบาทว์ต่างๆ ได้ทั้งภายนอกภายใน เครื่องป้องกันคือ พระรัตนตรัยนี้ประเสริฐยิ่งนัก

ห้องกำจัด

            การกำจัดศัตรูทั้งภายในและภายนอก ใช้เสกมนต์คาถาเป็นวิธีที่สะดวกกว่า เพียงแต่เสกมนต์กล่าวถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ภูตผีปีศาจจะแตกกระจายไป ทั้งนี้เป็นเพราะเดชานุภาพแห่งพระรัตนไตร ห้องกำจัดว่า

            พุทธัง โสหัง มัตถกัง ชีวิตัง ทานัง ธัมมัง โสหัง มัตถกัง ชีวิตัง ทานัง สังฆัง โสหัง มัตถกัง ชีวิตัง ทานัง พุทธังละลาย ธัมมังละลาย สังฆังละลาย พุทธังสูญหาย ธัมมังสูญหาย สังฆังสูญหาย พุทธังกำจัด ธัมมัง กำจัด สังฆัง กำจัด พุทธังกำจาย ธัมมัง กำจาย สังฆัง กำจาย พุทธังระงับ ธัมมัง ระงับ สังฆังระงับ อุทธัง อโธ โธอุด ธังอัด ตังอัด อุทธัง โส อัตตัง ยัง ยัง โอมจังงัง มหาจังงัง โอมสวาหายะ พุทธังคลีจิต ธัมมังคลีจิต สังฆัง คลีจิต พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดจิต สังฆังมัดจิต พุทธังมัดใจ ธัมมังมัดใจ สังฆังมัดใจ โอมสวาหะ

ห้องแผลงฤทธิ์

            ฤทธิ์เดชเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบำเพ็ญคุณงามความดี ครั้นได้แล้วก็อาจเสื่อมสูญไปได้ พระพุทธเจ้าฤทธิ์จอมฤทธิ์ เพราะพระองค์ได้สร้างบารมีมาครบครัน การกระทำพิธีขับไล่ภูตผีปีศาจ ครูมนต์จะต้องแผลงฤทธิ์ คือร้องขอเอาฤทธิ์พระพุทธเจ้ามาใช้ ปรากฏว่าได้ผลดีพอสมควร บทแผลงฤทธิ์ว่าดังนี้

            สาธุ สาธุ สาธุ อาคมกูนี้ชื่อว่าจักแก้ว ดวงหนึ่งไปผันหัวผีอยู่ถ้ำน้ำงู ดวงหนึ่งไปผันหัวผีอยู่ฮูนำนาค ดวงหนึ่งไปผันหัวผีโป่ง ดวงหนึ่งไปผันหัวผีโหงและผีห่า ดวงหนึ่งไปผันหัวผีบ้าแลผีพราย ดวงหนึ่งไปผันหัวผีตายบ่มีพี่น้อง ดวงหนึ่งไปผันหัวผีปอบ ดวงหนึ่งไปพันผาบเทพา ฝูงมีจิตใจอิจฉาเคียดแค้น บ่ฮู้จักคลองธรรม จักรแก้วกูแล่นไปผาบแล้วให้ฮีบแล่นมาบัง บังก้ำหลังกูอย่าช้า บังก้ำหน้ากูอย่านาน เบื้องซ้ายจักรแก้วกูแล่นไปคั่ว เบื้องขวาจักรแก้วกูแล่น ไปกั้งบังไว้ โอมปิดโอมบัง สวาหายะ สัทธิบังตา หมู่หนึ่งบังหลัง หมู่หนึ่งบังหน้า หมู่หนึ่งบังเทิงฟ้า หมู่หนึ่งบังเทิงดิน หมู่หนึ่งบังเทิงหัวเกษเกล้า หมู่หนึ่งบังตลอดฮอดเท่า ขอบเขตจักรวาล สิทธิพันธัง พระธรรมแปดหมื่น แปดหนึ่งบังตาผี แปดหนึ่งบังตาคน แปดหนึ่งบังมนต์ แปดหนึ่งบังว่าน แปดหนึ่งบังฮอดด้านขอบเขตสีมา กูซิบังเทิงหูตาตนตัวทุกแห่ง กูซิบังเทิงช้างม้าวัวควาย กูซิบังเทิงย้าวเฮือนนาวามนูษย์นาคครุฑกุมภัณฑ์ มารภูตผีปีศาจ ทางนี้ผีอย่าป่องนี้ผีอย่าเที่ยว โอมอัดอัด อัดด้วยศีลบารมี ตัง นมัสสามิ บังตี บังคง บังบัง สวาหายะฯ

ห้องกำบัง

            ภูตผีปีศาจเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นตัว จึงไม่ควรประมาทควรหาทางป้องกันไว้ การแก้ไขมนต์เป็นสิ่งที่ทำได้ยากสู้วิธีป้องกันไม่ได้ คือน้อมนึกระลึกกล่าวถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ภูตผีปีศาจจะเบียดเบียนเราไม่ได้ ห้องกำบังว่าดังนี้

            พระเจ้ารังธาตุ พระบาทอุเหลือง ปัจจุบันตั้งไว้เป็นเค้าขันห้าตั้งไว้บูชา ห้าหนึ่งบังขวา ห้าหนึ่งบังโต โสก้ำใต้ราสี แผ่นทองแดงบังหน้า บัวระพันห้าบังหู ฝูงหมู่มารกลับเพศ เป็นช้างเหลืองออกแต่น้ำมา พระธรรมกูไปผูกไว้ง่าภูอำ ธรรมพระเจ้าเลิ๊กแลตื้นฉันใด ดอกบัวอย่าแก่นธรรมเจ้าจึงได้ชื่อว่าประสิทธิจริง เก่งกล้าคาถาทั้งห้าว่านช้าก็หายแสนยายำ มักคายก็อ่อนบ่มีกราย หาหลายบ่มีได้ ด้วยอิฎฐิมิญชัง บังนะลาต สายเส้นขาดโสภา โสริยาพระธรรมบังเคราะ บังคับกับแม่นว่าอยู่ด่านล้อม เขาก็บ่มีเห็น ข้าจักกั้งจักบังศัตรหมู่อาฆาตพยาธิโรคา สัพพอันตรายา สัพพอันตราโย โอภาสหับ โอมพิชะมหามงคล แสงน้ำดาวมาบังตนกูแสงกลางหาวแลแสงหมอกมาบังตนกู แสงอยู่ใต้คอเฮือหมู่แสงเงือกมาบังตนกู กูซิบังทั้งไม้ข้อหล่ออยู่ใต้คอเฮือ ผีตกขุมพระเจ้ามาช่วยผู้ข้าเนอ คำเทาผู้ข้าก็บังได้ ราชสีห์ขึ้นขี่ช้างพลายวรรณ คนสามพันกูบ่มีตื่น คนสามหมื่นกูบ่มีติ โอมเกเกเนเน สวาหะ

            พุทโธบัง ธัมโมบัง สังโฆบัง กูซิบังทั้งงัวแม่ลาย กูซิบังทั้งความแม่ง้อง กูซิบังทั้งฮูบเขาควายกูซิบังทั้งสายเขากี กูซิบังทั้งลูก กูซิบังทั้งเมีย พุทโธมังบังก้ำหลังกูเนอ ธัมโมมาบังก้ำหน้ากูเนอ สังโฆมาบังก้ำซ้ายและขวากูเนอ ผู้ข้าไหว้แล้วพระเจ้าอยู่กลางโอมทงทง มหาทงทง ทันใด อย่าส่อก่อธาตุ รังธาตุกูซิบัง กูซิบังทังดาบกล้าแลหินเหลือง กูซิบังทังป่องเฮือนพ่อแม่พี่น้อง กูซิบังทังเหมหนังแลหอกหลอด กูซิบังทังปอดแลหนังสะ โพง กูซิบังทังสุริสาลุ่มใต้ภายเทิง กูซิบังทังสุริยาธาตุ กูซิบังทังเม็งอาสน์และบาตรทอง กูสิบังทังหมอนลายแลเสื่อสาด กูสิบังทังเม็งอาสน์ราสีบารมีง้ำไว้ บ่อาจใกล้องค์ธรรม สัพพกัมมังบังเกิดธรรมพระเจ้าจืดพร้อมทั้งปวง สี สี ตัง ตัง สีลัง สวาหายะ

            พุทโธผา ธัมโมผา สังโฆผา พุทโธเพิก ธัมโมเพิก สังโฆเพิก พุทโธบัง ธัมโมบัง สังโฆบัง พุทโธกั้ง ธัมโมกั้ง สังโฆกั้ง เป็นที่จั้งให้เพิ่งแห่งผูข้าเนอ มีอุตัวหนึ่ง มีอะตัวหนึ่ง โอมทิพสิทธิการ โอมพุทโธมาบังตนกู  โอมธัมโมมาบังตนกู โอมสังโฆมาบังตนกู ตนกูนี้แข็งยิ่งกว่าค้อน ตนกูฮ้อนยิ่วกว่าแสงตะวันยามเมื่อกูไปทางใด หนังหัวผีฟองยีเยือกยียน กูซิบังทังผี กูซิบังทังคน กูซิบังทังช้างม้าแลงัวควาย กูซิบังทั้งตายายและพ่อแม่ กูซิบังทังเฒ่าแก่แลวงศา กูซิบังทังบริวารแลเชื้อชาติ กูซิบังทังเนื้อ กูซิบังทังคีง กูซิบังทังบิ้งเบี่ยงผ้า กูซิบังทั้งตับแดง นอก กูซิบังทังปอดแดงใน กูซิบังทังหมากหัวใจใส่อ่อน กูซิบังทังซิ้นต่อนแลโครง กูซิบังทั้งฮาวท้องน้อย กูซิบังทั้งซิ้นต่อนน้อยเขาใส่สันใน พ่อครูกูนี้ชื่อพระพุทธเจ้าสิทธิให้แก่กู โอมพุทโธ นะโม

สวาหายะ

            พุทโธลม ธัมโมลม สังโฆลม พุทโธ มา บัง ทังตะเนินหินหัก กูซิปัดภูผาให้แตก กูซิแยกภูผาให้มุ่นทะลาย กูซิบายเขายุคานธร นิวัตตนากร สูท่านทั้งหลายอย่าเข้ามาใกล้ อย่าเข้ามาถัด กูซิมัดอาคม ทั้งหลาย โอมสะเลิกสะเลิก กูซิเพิกทังหอกคมบางกูซิเพิดทั้งตาวคมกล้า กูซิเพิกทั้งหน้าน้อยสามห้องสองหัว กูซิบังทั้งภูหน้าน้อยหน้าเหี้ยน กูบังทังครูหน้าน้อยแผ่นหินให้มาบังหน้ากูเนอ แผ่นฟ้าให้มาบังหลังกูเนอ โอมปิด โอมมทงโอมกั้ง โอมบัง สวาหายะ

ห้องกำบังธาตุด้วยจักรแก้ว

            พุทโธผา ธัมโมผา สังโฆผา พุทโธเพิก ธัมโมเพิก สังโฆเพิก พุทโธบัง ธัมโมบัง สังโฆบัง หิริโอตตัปบัง พุทโธคงสี ธัมโมคงสี สังโฆคงสี โอมนะระเวเพิก กะนะวังกั้ง หิริโอตตัปปัง พุทโธแคล้วคลาดอัดอึด ธัมโมแคล้วคลาดอัดอึด สังโฆแคล้วคลาดอัดอึด พุทโธกำจัดออก ธัมโมกำจัดออก สังโฆกำจัดออก โอมสะหะเพิกบัง โอมหิริโอตตัปปัง พุทธังแคล้วคลามอัดอึด โอมธัมมัง หิริโอตตัปปัง พุทธังแคล้วคลาดอัดอึด โอมสังฆังหิริโอตตัปปัง แคล้วคลาดอัดอึด โอมหิริโอตตัปปัง พุทธังบัง สรณัง แคล้วคลาดอัดอึด โอมหิริโอตตัปปัง ธัมมังบัง สังฆังบัง สรณัง แคล้วคลาด อัดอึด โอมหิริโอตตัปปัง สังฆังบัง สรณังแคล้วคลาดอัดอึด พุทธังแคล้ว สรณัง คัจฉามิ ธัมมังแคล้ว สรณัง คัจฉามิ สังฆังแคล้ว สรณัง คัจฉามิ แคล้วคลาด คลาดแคล้ว จัด จัด พุทธัง คง ธัมมังคง สังฆังคง พุทธังกำจัด ธัมมังกั้ง สังฆังกั้ง โอมสหะเพิกบัง

            โอมหิริโอตตัปปัง พุทโธสงสี โอมหิริโอตตัปปัง ธัมมังคงสี โอมหิริโอตตัปปัง สังฆังคงสี หิริโอตตัปปัง พุทธังบัง สรณัง คัจฉามิ หิริโอตตัปปัง ธัมมังบัง สรณัง คัจฉามิ หิริโอตตัปปัง สังฆังบัง สรณัง คัจฉามิ หิริโอตตัปปัง มาบังก้ำหลังกูอยู่อย่าช้า หิริโอตตัปปัง มาบังก้ำหน้ากูอยู่อย่านาน หิริโอตตัปปัง มาบังสองแข้งกูอยู่สีลา ๆ มาบังสองขากูอยู่สีล้าย ๆ โอมสหะ เพิกบัง พุทธังบัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังบัง สรณัง คัจฉามิ สังฆังบัง สรณัง คัจฉามิ พุทธังกันตัง ธัมมังกันตัง สังฆังกันตัง พุทธังสีลัง ธัมมังสีลัง สังฆังสีลัง หิริโอตตัปปัง  พุทธังมาบังเบื้องหัวบนแห่งผู้ข้า หิริโอตตัปปัง ธัมมังมาบังก้ำซ้ายแลก้ำขวาแห่งผู้ข้า หิริโอตตัปปัง  สังฆังมาบังก้ำหน้าแลก้ำหลังแห่งผู้ข้า พุทโธล้อม ธัมโมวัง สังโฆบัง หิริโอตตัปปัง พุทธังมาบังก้ำอยู่หลังกูอยู่อย่าช้า หิริโอตตัปปัง ธัมมังมาบังก้ำหน้ากูอยู่อย่านาน หิริโอตตัปปัง สังโฆมาบังขนแข้งกูอยู่ลีลา มาบังขนขากูอยู่สีล้าย โอมสวาหะเพิกบัง พุทธัง บังลับ ธัมมังบังลับ สังฆัง บังลับ

            พุทโธบัง ธัมโมบัง สังโฆบัง พุทธังรึงรัด ธัมมังรึงรัด สังฆังรึงรัด มัดด้วยอิติปิโส นโมพุทธายะ มะอะอุ อุอะมะ อะมะอุ สังวิธาปุ กะยะปะ  สังวิธาปุกะ  ยะปะสัง วิธาปุ ปุกะยะปะสัง วิธา ธา ปุ กะ ยะ ปะ สัง วิ วิธาปุ กะยะปะสัง ผู้ข้าจักเชิญพระพุทธเจ้าลงมาเป็นครูสัพพัญญูเป็นเค้า ทังครูเฒ่าแลอาจารย์ พร้อมกันมากั้งมาบัง กูจักบังพระราชา จักลงมาเป็นครู กูผาบฝูงไพร่ มารตายตุ่มม้วย ด้วยเดชพระยาเวสสุวัณ ฝูงฮ้ายให้คอยเพียรหนี เห็นฝูงผีให้นำ พระเวสสังเกตไว้ในป่าหิมพานต์ ใผมาพานกูพระองค์ จักคอขาด อุบาทว์พร้อมสุณาองค์สองสิทธิยอดพระคาถา เผาหน้าเหล็กแดงให้กูนั่งได้ เผาตั้งให้กูอิงกูก็อิงได้ เผาคีมให้กูคาบกูก็คาบได้ เผาดาบให้กูอมกูก็อมได้ ก้ำหน้ากูเอาหนังมาฮอง ก้ำหลังกูเอาแผ่นทองแดงมาพาด สองตาบข้างกูเอาฟ้ามามุง ให้มาบังคีงกูบังต่อ มาบังข้อกูให้เป็นไม้ มาบังใส้กูให้เป็นพระนารายณ์ ยี่สิบสองฮ่างคีงกูเป็นชะนอด ให้มาบังคีงกู มาบังทั้งผ้าผืนกูห่ม มาบังทั้งฮ่มกูนอน ยโสปิ จะสวาหายะ สวาหายะ อาคัจฉาหิ อุทธัง ธุง กะ ขะ คะ งะ สวาหายะ ปสิทธิเมฯ

ห้องตัน

            อกุสะลา เขฬารัง อุปะสันนิ โคตะมานัง ทันตัง คารังกานิ เมือบนตันหน้า  ตันตา ตันหัว ตันคิ้ว อะสังบัง ต้นหลาวแปดเล่ม พระธรรมล้ำพระมาลากูสิข่วงบนภู สีธงเท่าเห่าห้อมและจงอางกูสิตันทังเครื่องหวานแลคาว น้ำอ้อย อั่วมันหมู กูสิตันทังขวามันทา เครื่องหวานพระเจ้า กูสิตันทังข้าวจ้าวใส่ขัน กูซิตันทั้งซิ้นปูปลามันใส่น้ำแจ่ว กูสิตัน ทั้งแข้วซ้ายและแข้วขวา กูซิตันทังตามัวมืดหลับบ่ แจ้ง กูสิตันทังจีบน้อยแลจีบใหญ่ กูสิตันทั้งเล็บตีนแลเล็บมือ กูซิตันทังสายบือแลท้องน้อย กูซิตันทังเลือดลมแลเสียบแทง กูสิตันทังเสีอนและหลาวแหลม กูซิตันทังเสื้อผ้าแลหัวหมอน ทังป่องเฮือนพ่อแม่พี่น้อง กูซิตันหลวงกูได้ห้าฮ้อย กูซิตันน้อยกูได้ห้าพัน อัปปะโขตัญ จะสวาหะ

            เหล็กหลวงแลเหล็กฮ้อย พระเจ้าให้กูตัน เหล็กฮ้อยแลเหล็กพัน พระเจ้าให้กูตัน ขื่อหลวงและเปลวไฟ หมูโตออกแสง แปงแวงงาช้างน้ำ กูสิตันทังแสงใต้ถ้ำหมู่แสงเสือ  กูซิตันทังแสงถ้ำเผือกแลแสงไฟ กูซิตันทังแสงหิ่งห้อยอยู่ใต้คอลาย กูซิตันทังสองแข้งเมื่อกูเดินไป กูซิตันทั้งขั้นใดเมื่อกูขึ้น กูซิตันทั้งพื้นเมื่อกูมานั่ง กูซิตันทังตั่งเมื่อกูมาอิง กูซิกันทังคิงเมื่อกูมาพาด กูซิกันทังปากเมื่อกูนอน โอมติดติด โอมตันตัน กูจักตันทังกกขาขาวกูจักบังทังฮาวท้องน้อย กูจักบังทังลูกอ่อน น้อยอันอยู่ในตัก กูจักตันเมียฮักอันอยู่พ่างข้าง กูจักตัน ทั้งช้างม้าแลงัวควาย กูจักตันทังตานายพ่อแม่พี่น้อง อัปปะสีตัญจะ กูซิตันพร้อมพระอยู่ถ้ำเนานั่งในกระดานหิน สีมากระจัดกระจาย ก้ำซ้ายกูซิคง ชะโย โหตุ อยู่ตันบ่อนกูให้แข็ง แสงหลวงท่อแสงฟ้า กูซิตันแสงท่อภูท่อดอย กูซิตันฮูหลวงฮูเงือกฮ้าย กูซิตันทังขี้หมากก้ายจับก่ายบันได้หลวง กูซิตันทังนาเข็ดขวางทังนาทุ่งใหญ่ กูซิตันทังผูเฒ่าเกิดในเฮือน โมกขาจริยะ อะเสจะริยา ขันติเว ขันเตเว ขื่อหลวงและไม้แทก กูซิตันทังซีกหลวงใหญ่แข็งขนาด กูซิฟาดให้ขาดเป็นผง กูได้คาถานำองค์พระพุทธเจ้า มาปกเกษเกล้าเกศา เครือเขาแข็งผูกกูบ่มีได้ โอมสหายะ

            โอมติดติด โอมตันตัน  ไม้ฮวกข้างกอ กูซิตันไม้ฮังตายคาฮ่อง กูซิตันก้านก่องแลแสงไฟ กูสิตันไม้ไผ่ไล่แลไม้ไผ่ บ้าน กูซิตัน โอมติดสา ขื่อหลวงเป็นธนูเขาใส่เจียงปีกไก่ กูซิตันไม้ ไล่เขาใส่เจียงใบลาน กูซิตันทังถ้ำอิหลู กูซิตันทังฮูสีนาค มาบมิบให้มาบังตนกู กูซิขับทั้งผีอกต่างให้สู่ออกหนีไป ให้สูไป กูซิขับทั้งผีอกลายให้สูออกหนีไป ให้สูไป กูซิขับทังผียักษ์แลผีโขให้สูออกหนีไป ให้สูไปกูซิตันท่อน้ำเมื่อกูตักกิน กูซิตันทังตีนเมื่อกูสร้าง กูซิตันทางหญ้าเมื่อกูมุงเฮือน โอมติดติด โอมตันตัน สวาหายะ

พุทธคุณัง ธัมมคุณัง สังฆคุณัง โอมบังบัง มหาบังบัง สิทธิๆ สิบแผ่นภู สิบแผ่นผาให้มา บังก้ำหลังกูเนอ สิบแผ่นหนังให้มาบังตีนกูเนอ สิบแผ่นหินให้มาบังหน้ากูเนอ  กูซิบังทังขื่อ กูซิบังทังคา กูซิบังทังหู กูซิบังทังตา กูซิบังทังตน กูซิบังทังตัว กูซิบังทังงัวธนู กูซิบังทังหูหน้าน้อย กูซิบังทังฮอยเขาหยิก กูซิบังทังอิดแลดินจี่ กูซิบังทังหินแลหินลาด กูซิบังทังขื่อเขากาดแลงาช้าง กูซิบังทังก้างปลาและดูกไก่ กูซิบังทังตาไม้ไผ่แลตาเกิน กูซิบังทังเขาเชิญ กูซิบังทังหอกเขาซิแทง กูซิบังทังฝ้ายดำฝ้ายแดง เขาเคียนปลายปืน  กูซิบังทังปืนสีนาดบังซ้ายล้ายเป็นหมู่เป็นถัน บังตื้อบังตันบังพรหมสี่หน้า บังผู้ข้าไว้กลาง บังเสียให้ได้ บังไว้ให้ดี  บังหนีเมือนอก บังออกเมือไกล บังไก่อยู่นก บังนกอยู่ตุ้ม บังกุ้มเมิดหมู่ บังหมู่มานำ บังเงินบังคำไว้ในไถ่ บังไพร่ฟ้าพี่น้องบ้านเมือง บังคำเหลือง เงินขาว ทองแดง บังของแพงทังเมียแลลูกบังข้าวปลูกทังซ้ำข้าวแนว บังทังแมวหมูหมาเป็นไก่ สัตว์น้อยใหญ่เลี้ยงไว้ในเฮือน คือว่าช้างม้างัวควายเหลือกว่านั้นนำมาทุกสิ่งข้าวของ เขาผีปองให้กูเสียปอบ พระธรรมเจ้าเรียบราบทังบ้านหากมี พระปัญญาบารมีพิทักษ์รักษาสนิทสนม ผู้ข้าบ่วางในองค์คุณพระ ผู้ข้าบ่ละคุณแก้วสามประการ ขอให้งามเหมือนดั่งพระแก้ว ขอให้แล้วเหมือนดั่งพระศรีขอให้มีฤทธิ์เหมือนดั่งพระบาง ขอให้สว่างเหมือนดังพระองค์หมื่น ขอให้ชื่นเหมือนดั่งพระองค์แสน ขอให้มีผู้แทนเหมือนดั่งพระองค์ตื้อ สามเมื้อขอให้เต็มเฮือน สามเดือนขอให้เต็มบ้าน ขอให้ป้านมากมูล ขอให้คูณล้ำเลิศ ให้ประเสริฐทังผัวเมียแล ลูกเต้า คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสงฆเจ้า มาปกเกษเกล้าค้ำชูก็ข้าเทอญ สาธุ ชะโย เม โหตุ

           

          เกสาโลมา นะขา ทันตา ตะโจ ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกสา (3 จบ)

(ปั่น)  นะอะอะนะ นะมะมะนะ นอุอุนะ

           

            ธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์นี้หากได้ท่องจำ สังวัธยายเป็นประจำจะเป็นที่หวาดเกรงต่อภูตผีปีศาจตลอดจน เป็นที่เคารพนับถือจากคนทั้งหลาย

ธรรมพระไตร

            ธรรมพระไตร ชื่อที่สมบูรณ์ก็คือ ธรรมพระไตรสรณคมน์ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หมายการเข้าถึง การกราบไหว้ การท่องบ่น การระลึกถึงและประพฤติปฏิบัติตาม เรียกว่าการเข้าถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์   ถือเป็นรัตนะแก้วดวงประเสริฐ คือ ป้องกันหรือขจัดปัดเป่า ความทุกข์ความโศกโรคภัย ตลอดจนอุบัติเหตุ อุปัทวะอันตรายที่จะเกิดหรือ เกิดขึ้นแล้ว ให้เสียมสลายไป

            ผู้เรียนธรรมเขาเรียกว่าหมอธรรมสำหรับหน้าที่ของหมอธรรมก็คือ ป้องกันและรักษา ยามบ้านเมืองเกิดความเดือดร้อน จากภูตผีปีศาจเข้ามาเบียดเบียน หมอธรรมจะต้องป้องกันรักษา

เครื่องสักการะครู

            การเรียนธรรมแบบสำเร็จลุน จะเรียนวันไหนก็ได้ เครื่องสักการะครูมี ขัน 5 ขัน 8 ขันหมากเบ็งซ้ายขวา ๒ ขัน ยกมาตั้วไว้ตรงหน้า ป่าวสัคเคเทวดาจบแล้วทำวัตรสวดมนต์ไปพอสมควร แล้วเริ่มขึ้นครูธรรม ต่อไป

บทอาราธนาธรรม

นะโม ๓ จบ

            อุกาสะ ข้าพเจ้าจะขออาราธนา เอาพระอุปะจาระสมาธิ และพระอัปปะนาสมาธิ พระโลกุตตระธรรมเจ้า ในห้องพระไตรสะระณะคมน์เจ้าเก้าประการ สิบกับทั้งพระไตรปิฏกดวงประเสริฐ ขอจงให้มาบังเกิดตั้งอยู่ในจิตสันดานดวงใจ แห่งข้าพเจ้าในกาลบัดนี้ก็ข้าเทอญ อุกาสะ อาราธนานัง กะโรมิ ฯ กราบลง

บทคารวะธรรม

           

            พุทธะคาระวาตา ธัมมะคารวะตา สังฆคารวะตา ปฏิสันถาระคารวะตา สิกขาคารวะตา อัปปะมาทะ  คารวะตา สาสะเน คารวะตา อาคาระโว โหติ ฯ กราบลง

บทบูชาธรรม

           

            พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆบูชา นะโมพุทธายะ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกวิทู อนุตตะโร ปริสะทัมมะ สาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ พุทธัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุเม ชะยะมังคะลัง

            สวากขาโต  ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ ธัมมัง พุทธัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุเม ชะยะมังคะลัง

           

            สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

ญายะปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

สามีจิปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฐถะ ปุริสะปุคคะลา เอสา ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุเม ชะยะมังคะลัง

บทมอบกายถวายตัว

            สาธุ รูปร่างตนตัวจิตใจ แห่งข้าพเจ้านี้ ขอถวายไว้แก่พระพุทธเจ้า ขอถวายไว้แก่พระธรรมเจ้า ขอถวายบูชาไว้แก่พระสังฆเจ้า ตั้งแฮกแต่วันนี้ไปตราบต่อเท่าเข้าสู่นีรพาน ขออย่าให้มีมารผจญได้ด้วยเดชะพระบารมีพระพุทธเจ้า ด้วยเดชะบารมี พระธรรมเจ้า ด้วยพระเดชะบารมี พระสังฆเจ้า ขอแด่พระผู้เป็นเจ้าจงได้ล่วงรู้ว่า ข้าพเจ้านี้เป็นผู้ได้เข้าถึงพระสะระณะคมน์ เป็นที่พึ่งด้วยประการนี้

            นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง

            พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

            ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ  ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

            ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ  ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

            อัชชะ อาทิง กัตวา อะหัง พุทธัสสะ อัตตานัง นิยยาเทมิ อัชชะ อาทิง กัตวา อะหัง ธัมมัสสะ อัตตานัง นิยยาเทมิ อัชชะ อาทิง กัตวา อะหัง สังฆัสสะ อัตตานัง นิยยาเทมิ

            อัชชะ อาทิง กัตวา อะหัง พุทธัสสะ อันเต วาสิโก โหมิ

            อัชชะ อาทิง กัตวา อะหัง ธัมมัสสะ อันเต วาสิโก โหมิ

            อัชชะ อาทิง กัตวา อะหัง สังฆัสสะ อันเต วาสิโก โหมิ

  อิติ มัง ธาเรติ  ทุติยัมปิ อิติ มัง ธาเรติ ตติยัมปิ อิติ มัง ธาเรติ  โส ภะคะวา อันว่ารูปร่างตนตัวผู้ข้า  อิติปิ คือว่า อิมินา การะเณนะ ด้วยเหตุดังนี้ จึงได้ชื่อว่า อะระหัง ปิยังมะมะ

            การมอบการถวายชีวิตต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่ากับเป็นการชุบกาย และใจให้กล้าแข็ง ฤทธิ์ สามารถที่จะต่อสู้กับภูตผีปีศาจได้ ตามปกติ ร่างกายและจิตใจของคนธรรมดาสามัญ ถ้าไม่มีคุณพระคุ้มรองป้องกัน ภูตผีปีศาจทำอันตรายได้ง่าย

บทเมตตา

             สัพเพ สัตตา สุขิตา โหตุ สัพเพ สัตตา ปะสังสา สัพเพ สัตตา อะปาสังสา สัพเพ สัตตา ยะสา สัพเพ สัตตา อะยะสา สัพเพ สัตตา วะตา รักขิตา เขตตัง สัพเพ สัตตา เทวตา รักขิตา เขตตัง อะเวโร โหมิ อัพยาปัชโฌ โหมิ อะนีโฆ โหมิ สุขี อัตตานัง ปะริหารามิ สัพเพ สัตตา ภูมมะสัตตา เขตตัง สัพเพ สัตตา อะภูมมะสัตตา เขตตัง สุขิตา โหนตุ อะเวโร โหมิ อัพยาปัชโฌ โหมิ อะนีโฆ โหมิ สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปริหะรันตุ สุขี สุขี ฯ

            บทเมตตานี้ให้ผาบผี ถ้าผีแข็ง ผีร้าย ให้เสกบทนี้จะเสกกี่จบก็ได้ สำหรับผู้อาถรรพ์หรือธรรมแข็งไม่กำหนดว่ากี่จบ แล้วแต่โอกาสและความพอใจ แล้วเสก สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ ให้ได้ ๗ จบ เสร็จแล้วให้หยาด(กรวดน้ำ) แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ทั้งนี้เพื่อมิให้มีกรรมมีเวรต่อกัน

บททำน้ำมนต์

            สุมะโน โคตะโม อิติปิ โส ภะคะวา อิติมันตา สุขาวะหา พุทธะคุณัญจะ เตชะนะมันตาปิ สุขาวะหา ธัมมะคุณัญจะ เตชะนะมันตาปิ สุขาวะหา สังฆะคุณัญจะ เตชะนะมันตาปิ สุขาวะหา อุอะมะ ทุเร ทุเร สวาหายะฯ

            ยามใดเกิดความเดือดร้อน เนื่องจากผีเข้าเจ้าสูญ ให้เสกคาถาบทนี้ทำน้ำมนต์ เสกแฮ่เสกทรายหว่านรอบบ้าน เมื่อเสร็จแล้วให้เอาแฮ่ เอาทรายมาฝังไว้ตรงกลางบ้าน โดยถือว่าเป็นบือ (สะเดือ) ของบ้าน

บทป้องกัน

            วิธีการป้องกันเป็นวิธีที่ใช้ก่อนเกิดเหตุ ถ้าเหตุเกิดขึ้นแล้วต้องแก้ไข เมื่อบ้านใดเกิดเดือนร้อนหมอธรรมได้ขับไล่ภูตผีปีศาจไปแล้ว ก็ทำพิธีป้องกันรักษาไว้ เพื่อมิให้ภูตผีปีศาจกลับมาเบียดเบียนอีกให้เสกคาถาป้องกันว่า

            จัตตาโร นะวะโมทันติ ปัญจะสัตตะอัตถะ เอโก ภาโว สัตติ พุทโธ อัน ธัมโม อัด สังโฆ อัด พุทโธ ปิดปาก ธัมโม ปิดตา สังโฆ ปิดหู ธา ระงับ วิยะ ตัน สวาหับ สุ สุ ระระ ทา ทา โร โร อัสสะ อะอะ โส โส โนโน นะโมพุทธายะฯ

            ให้เสกคาถานี้ใส่ฝ้ายสำหรับผูกคอ ผูกแขนผูกขา ผู้เจ็บป่วย ถ้าบ้านใดเดือดร้อน ให้เอาหญ้าคามาทำเป็นเส้นด้ายสายสิญจ์ ให้ยาวพอที่จะรอบบ้านแล้วเสกคาถานี้ใส่หญ้าคา เสร็จแล้วเอาไปขึงรอบบ้าน

บทรดน้ำมนต์

    อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธะ นาเมอิ อิมินา พุทธะตังโสอิ

    อิโสตังพุทธะปิติอิ อิสวาสุ สุสวาอิฯ

บทนี้ใช้รดน้ำมนต์เวลารดน้ำมนต์ ให้เสกคาถาบทนี้รดเรื่อยๆไปจนครบ ๗ บทจึงหยุด

ธรรมส่อง

            นะโมพุทธายะ นะโมธัมมายะ นะโมสังฆายะ นะยะสะสุโล โสสิอิอะ สะนุนะยะปิตัง สังสิสุโลฯ

มนต์บทนี้ เป็นธรรมส่อง เจริญแล้วสามารถเห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นด้เหมือนกับตาเห็น เสกแล้วเป่าเข้าแขนซ้าย ถ้าเหตุการณ์อะเกิดขึ้น จะมองเห็นที่แขนเบื้องซ้าย

            พิธีทำ ให้ยกครูวันอังคาร คายขันธ์ ๕ ขัน ๘ เงิน ๖ สลึง ก่อนจะเสกให้เปล่าสัคเค ๓ จบ นะโม ๓ จบ แล้วจึงเสกคาถานี้ ๗ จบ เป่าลงที่แขนเบื้องซ้าย

ธรรมพระอรหันต์

ท่านให้แต่งคายขัน ๕ ขัน ๘ ซวย ๑๒ คู่ ซิ่นผืน แพรวา เงิน ๖ สลึง ยกครูวันอังคาร ธรรมนี้ใช้รักษาคุณเป็นบ้า เป็นปอบ ภูตผีปีศาจเบียดเบียน คนเป็นไท้เป็นแถน ผีเข้าเจ้าสูญ ที่ไร่ นาป่า ดงดอน ห้วยหนอง คลองบึง มีอาฮักหลักที่หวงแหน ให้ใช้ธรรมพระอรหันต์นี้ขจัดปัดเป่า เรื่องร้ายจะกลายเป็นดี

            เมื่อจะเรียนธรรมหรือรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วย ให้แต่งครูให้ครบ ยกขันครูใส่พานตั้งไว้ตรงหน้า กล่าวนะโม ๓ จบ แล้วเปล่าสัคเคเทวดาว่า

ชุมนุมเทวดา

            อุกาสะ ข้าพเจ้ามีสุนทระวาจามาร้องป่าวแก่เทพเจ้าทั้งหลายทั้งปวง อันทรงมหิทธิฤทธีศักดาเดชที่อาศัยอยู่ในแท่นที่เทพไท สัคเค อยู่ในสุราลัย กาเม อยู่ในกามโสรฬ รูเป อยู่ในรูปาวจารวิมานมนกล่าวคือโสรฬสะมหาพรหม ตะรุวะนะคะหะเน อยู่ในไพรพนอมแนวเนิน อรัญเญอยู่ในเนินป่าและเหวหินในคิขิรินเดียระดาษ จันตะลิกเข อยู่ในอากาศอัมพรนะ วิมาน วิมาเน อยู่ในวิมานมนเมาะในแก้งเกราะสำหรับเกิดประจำทวีป รัฏเฐ อยู่ในนคร บรีรัมย์ คาเม อยู่ในคามนิคมรรคา เคหะวัตถุมหิอยู่ในเขตขั้นเคหา ในไร่นา ริมร่อง ในท้องทุ่งเคหานับอเนกอนันต์นัก ทุกเทพเทพารักษ์อันศักดิ์สิทธิ์เทพเจ้าอยู่มีมหิทธิฤทธีศักดาเดช อาศัยอยู่ในภูมิประเทศทุกแห่งหน ชะละถะละวิสะเม อยู่ในวังวนชลธาใหญ่กว้าง กล่าวคือ ป่อบึงบางหนองน้ำ ทุกท่าถ้ำน้ำภู ใช่แต่เท่านั้นเมื่อไรมี บางทีก็อาศัยอยู่บนบกที่ราบรื่น ในภาคพื้นพสุธา ยักขะคันธัพพะนาคาจายันตะ ขออันเชิญเทพยดาเข้าทั้งหลาย จงเสด็จลงมาประชุมชุมนมสโมสรที่นี่ ให้พร้อมหน้ากัน ธัมมะสะวะนะกาโล อยัมภะทันตา ธัมมะสะวะนะกาโล อยัมภะทันตา ธัมมะสะวะนะกาโล อยัมภะทันตา  ขอจงลงมาบันดาลให้เห็นผล ในปัจจุบันทันตาท่านทั้งหลาย ทั้งปวงกับทั้งข้า อุกาสะ อาราธนัง กะโรมิ              

                                              (กราบ ๓ หน)

           

            ต่อไปนี้จงสวดมนต์น้อย มนต์กลาง หรือเจ็ดตำนาน สิบสองตำนานให้จบก่อน แล้วจึงว่าบทต่อไปนี้

            พุทโธ เม นาโถ ธัมโม เม นาโถ สังโฆ เม นาโถ พุทธรัตนัง ธัมมะรัตนัง สังฆะรัตนัง พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ ด้วยเดชานุภาพแห่งพระรัตนตรัยแก้ว กล่าวแล้วคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ องค์พระพุทธเจ้าจงลงปรากฏแก่ดวงวิญญาณ แห่งข้าพเจ้าในกาลบัดนี้ก็ข้าเทอญ

            สาธุ สาธุ สาธุ โอกาสาสิทธิอาคม ข้าพเจ้าขอเชิญยังพระปิฏกทั้งสาม กล่าวคือพระสูตร พระวิภังค์ พระปรมัตถ์ จงมาเป็นอรรถ และธรรมตามตำราข้าขอเชิญ พระอภิธรรม มาทั้งเจ็ดคัมภีร์มีพระธรรมสังคิณีเป็นเค้า จงเข้ามาปรากฏแก่ดวงจักขุทวารและมโนทวารแห่งข้าพเจ้า ในกาลบัดนี้ก็ข้าเทอญ     (กราบ ๓ หน)

            แล้วเงยหน้าขึ้นนั่งพับเพียบ ทำใจให้เป็นสมาธิ ภาวนา พระธรรมไป จนส่องเห็นเหตุการณ์ต่างๆได้ถ้าใจไม่เป็นสมาธิ จงอย่าได้ด่วนบริกรรมคาถาบทต่อไป คาถาที่จะใช้ บริกรรมคือ           

อุกาสะ อาราธนานัง กโรมะ กะขะคะฆะงะ อะอา อิอี อุอู เอโอ พระธรรมเจ้าทั้งแปดจงลงมาปรากฏแก่ดวงจักขุทวาร มโนทวารแห่งข้าพเจ้า พระกกุสันโธโกนาคมโน กัสสโป โคตโม ศรีอริยะเมตไตโย โกนามะเต อิเม มหาสิทธิตุง พุทโธ ปาปะธัมโม วินาสเสตุ

            เมื่อเจริญธรรมบทนี้แล้ว ใหอาราธนาพระคุณของท่านผู้มีคุณมาปกปักรักษา มิให้มารหรืออันตรายใดๆ มาทำลาย

อาราธนาคุณ

สาธุ สาธุ ข้าพเจ้าจะขออาราธนาเอาซึ่ง คุณครูบาร์อาจารย์ คุณบิดามารดา อุปัชฌาย์ อาจารย์สวดเจ้า จงลงมาช่วยขจัดโพยภัยทั้งมวล ขออัญเชิญคุณครูบาร์อาจารย์ ที่กล่าวมาแล้วจงเสด็จลงมาอยู่เกล้วกระหม่อม จอมขวัญผู้ข้าเทอญ คุณศีล ๕ คุณศีล ๘ ก็ดี คุณศีล ๑๐ ก็ดี คุณศีล ๒๒๗ ก็ดี คุณศีลแลคุณธรรม คุณปัสสวาตก็ดี คุณอัสสวาตก็ดี คุณพระฤาษีทั้ง ๑๐๘ องค์ก็ดี คุณพระพุทธเจ้ากกุสันโธ โกนาคมโน กัสสโป โคตโม ศรีอริยเมตไตโย คุณพระฤาษีตาไฟ คุณพระฤาษีตาวัวก็ดี ข้าพเจ้าขอนิมนต์ลงมาช่วยข้าพเจ้า ขจัดโพยภัยภูตผีปีศาจโตอาจหาญ ที่มันมาย่ำยีพระพุทธศาสนา บริษัทของพระองค์ พุทธังให้มารักษา ธัมมังให้มารักษา สังฆังให้มารักษา อาราธนังกโรมิ

คาถากัน

พุทธกันตัง ธัมมกันตัง สังฆกันตัง นะโมกอเดียว นโม กอเกา โอมสวาหับ อิติปิโสกัน

            คาถาบทนี้ใช้เสกด้ายสายสิญจน์ ในเมื่อเวลาเราไปทำในที่เข็ดขวาง ถ้าจะผูกข้อผูกแขนให้เสก ๓ จบ

คาถาบัง

            พุทธสังมิ มหิมาบัง พุทธังธัมมัง สังฆังมาบัง อิสวาสุ สุสวาอิ อิกิมาบัง กูจักบังทั้งข้างซ้าย กูจักบังทั้งข้างขวา ทังทั้งงัวความอยู่ใต้ล่าง บังทั้งผู้ย่างไปเอาฟืน บังทั้งผู้ยืนนึ่งข้าว บังทั้งผู้เฒ่าผู้หนุ่มแลเด็กแดง ผีนอนแคงอยู่ก้ำตะวันออก ผีปอกลอกอยู่ก้ำตะวันตก กูจักบังทั้งผีโกหกอยู่ก้ำทิศใต้ ผีแถนและผีไท้อยู่ก้ำทิศเหนือ กูจักบัง พุทโธบัง ธัมโมบัง สังโฆบัง กูจักบังทั้งเขาใส่หน้าไม้งัวธนู เขาใส่กูบ่ถืก กูจักบังทั้งเขาใส่ฮูปแลใส่ฮอย กูจักบังทั้งเขาใส่ว่านก้านก้ำแลก้านลาย บังทั้งตายายและพ่อแม่ บังทั้งขอนภูผ่าฟืนนึ่งข้าว บังทั้งไม้คานหาบน้ำ พุทโธบัง ธัมโมบัง สังโฆบังตลิตะโร นโมตันติ สิบหน่วยภูขอให้มาบังหลัง สิบแผ่นหนังขอให้มาบังหน้า สิบแผ่นฟ้าขอให้มาบังปลายตีน สิบแผ่นหินขอให้มาบังหัว ปฏิเสวามิ บังฯ

            โอมปิดๆ โอมบังๆ กูซิบังเทิงผ้าปกหัว กูซิบังเทิงบัวบังหน้า กูซิบังเทิงฝากระดานทองสามห้อง กูซิบังเทิงหัวขั้นไดอวนกูเคยขึ้น กูซิบังเทิงเสื่อปูนอน กูซิบังเทิงหมอนแลเสื้อ กูซิบังเทิงเนื้อแลเสื้อสวมตน กูซิบังเทิงงัวแม่ลาย กูซิบังเทิงความแม่เว้อ กูซิบังเทิงเสาเฮือนตั้ง กูซิบังเทิงดั้งกูอิง กูซิยังเทิงลูกกูอยู่พ่างตัก กูซิบังเทิงเมียฮักอยู่พ่างข้าง กูซิบังเทิงพี่น้องพี่อยู่นำกัน เขาฟันแทงยิงกู ให้เสาปืนมันแตกถืกเจ้ามันตาย โอมนะโม กวัดแกว่งบ้านเฮี้ยกูซินอน โอมกระจาด โอมกระจาย โอมสหายเพิก พุทธังบังจุกุ ธัมมังบังจุกุ สังฆังบังจุกุ พุทธสังมิ ธัมมะสังมิ สังฆสังมิ สุอะนะอะ สหับบังฯ

            มนต์ทั้งสองบทนี้ให้ป้องกันหรือกั้งบัง เวลาไปปราบภูตผีปีศาจ ผีสางเทวดาอารักษ์ ไข้ผีแทรก ผีไท้ ผีแถน รักษาปอบ มิให้มาทำอันตรายยุแก่ เจ้าของหรือคนที่เราไปรักษา ให้เสกน้ำมนต์อาบหรือกินเสกด้ายผูกข้อผูกแขน เสกหญ้าคา เสกด้ายสายสิญจน์ล้อมไว้ มิให้ภูตผีปีศาจมาทำอันตราย

ยอดธรรมพระอรหันต์

            *เอตัง เสยยามะ สะสะมะ ยะหะตัง ตัง ตัง โส โส โมยะยะ มะหังอัง นะตังหัง ทัสจะ วิสุโล

            *สิทธิพระพร สิทธิอรหัน สิทธิยะหัง สมาธิยะตัง อังอังอะ สะอะนะ อุอะนะ ตังหังหิ ขันจะ สัจจามะหิ อิทะนะตัง สะสะสะสะสะสะสะ อัง โหตุ

            *นะ พุท ธะอิท อิท นะหัตตัง อะนะหัตถี วิทิตัง ตัง นะหัตถา สัทถายะ ปะหะยะหัง วิสุโล โหตุ อุ

            *อังหัง สัง ตัง ตัง โส ตัง ตัง นะมะขังนะ ตัง อัง นะอุ พุทธะกัง ขอดื่ม

            *จะอะอุหุตังอัง โสตะติ อิอะอุ

            *ปิอัดอิด สิทธิสิทธิ คุคะ  ชะงะนังตังนัง นะมะอัง นะตังตัง นะหังหัง นะตังมึงว่านะ กูซิว่าโม มึงว่าอิติปิโส กูขึ้นอรหังตัง กูซิตังทั้งไม้มึงนอน กูซิตั้งทั้งคอน มึงอยู่ ตังนะอิด อิดอัดอุด อะอะ

            *ปิยะ มะมะหัง อะมะมะตัง ยะมะมะอัง ยะหังวา อิกิกิ นะตัง ตินะหัง หังนะติ อุ

            *อัดนะหัดตัง อัดนะหัดสัง อันว่าผีปีศาจทั้งหลายเอย เป็นผีบริสุทธิหรือบ่บริสุทธิก็ตามที่อาศัยอยู่ในดงดอนนี้  ถ้ากูบอกแล้วมึงอย่าลีนความกู เดี๋ยวพระอรหันตะขัง กูจักฟันคอม้วน อะ

            *อันว่าผีปีศาจทั้งหลาย กูจักผาบให้มึงตายมึงต้องตาย กูจักผาบให้มึงนอน มึงต้องนอนกูจักผาบให้มึงนั่ง มึงต้องนั่ง ผาบให้มึงเป็นลมมึงต้องเป็นลม ผาลให้มึงเป็นไฟ มึงต้องเป็นไฟ มึงต้องหาย อังนะหะอัง นะสะสะ นะอังอัง นะอิดอุนะ อะสะวิสุโล กูจักผาบทั้งผีพายแลผีเป้ามีอยู่เหล่าดงดอ พระอรหันต์บนบานให้กูมาพระอรหันต์นี้เป็นที่หนึ่งของชั้นฟ้า และชั้นสวรรค์ทั้งหลายก็ข้าเทอญ

            ยอดธรรมพรอรหันต์ทั้ง ๙ บทนี้ ใช้ทำน้ำมนต์อาบกิน สำหรับคนถูกผีเข้าเจ้าสูญ คนเป็นไท้เป็นแถน คนเป็นเป้าปอบโพงผี อนึ่งถ้าในที่เข็ดขวาง เป็นป่าดงพงไพร ที่บ้านที่ไร่ นาสวน ให้ไปเอาก้อนดินที่ปากสร้าง ๗ แห่ง แห่งละ ๗ ก้อน เสกคาถานี้ ๓ หรือ ๗ จบ แล้วเอาหินไปฝังหรือหว่านรอบภูตผีปีศาจจะหนีไป

            ถ้าจะทำเป็นหลักปักไว้ ในทีเข็ดขวาง ให้เอาหลักไม้ไผ่หรือไม้แก่นมา ๙ หลัก เขียนเฉพาะตัวคาถาลงในหลัก ๙ หลัก หลักละบท เขียนตัวขอมหรือตัวธรรมก็ได้ เขียนแล้วให้เสกคาถารวมทั้ง ๙ บท ให้ครบ ๓ หรือ ๗ จบ เอาหลัก๙ หลักไปฝังไว้ในทิศทั้ง ๘  ส่วนหลักที่ ๙ ให้ฝังไว้ตรงกลาง ที่ที่เข็ดขวาง จะจืดจางหายไป

            อนึ่งเมื่อในที่กันดาร หากมีโจรผู้ร้าย ภูตผีปีศาจหรือสัตว์ร้ายมีเสือเป็นต้น คอยทำอันตราย ให้เอาก้อนหินมา ๙ ก้อนเสกคาถาพระอรหันต์ ครบทั้ง ๙ บทแล้วโยนก้อนหินไปในทิศทั้ง ๘ ทิศละก้อน อีกก้อนหนึ่งเอาไว้ที่เรา ศัตรูจะทำลายเราไม่ได้เลย

เมื่อจะไปธุระ ให้เสกคาถาพระอรหันต์ทั้ง ๙ จบจะไม่มีศัตรูมาทำอันตรายแก่เราได้

ขับผี

            สาธุ สาธุ อุกาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนายังพระไตรปิฏกดวงดี บัดนี้ภูตผีปีศาจมาย่ำยีพุทธบริษัท ขอพระองค์ช่วยขจัดโพยภัย ยัสสะ ตัสสะ เกสี ยะถาปิ ปวัตติ คังคา มหาสมุททามารเสนา ปราชิตุง อสักโกนโต วินาสสันติ บัดนี้ข้าพเจ้าขอเชิญนางธรณีจงตีหัวมาร กระดานหัวผีแตก แหกออกนอกขอบจักรวาล ฝูงหมู่ปัญจะมารอย่าได้มาบังเบียดได้ แก่พระแก่นไท้องค์เสกสัพพัญญู สาธุเนอองค์พระพุทธเจ้า ตนเป็นเค้าแก่โลกโลกา ผู้ข้าขออาราธนามาผาบผีสาง มีอยู่นางนำไม้ ผีอยู่ใต้นำงู ผีอยู่ภูแลอยู่ถ้ำ ผีค้ำม้ำหาเที่ยวกินคน ชลวนผีหุงผีห่า ผีป่าไม้แลจอมดอย ผีทั้งหลายฝูงนี้ ด้วยอำนาจพระพุทโธ ด้วยอำนาจพระธัมโม ด้วยอำนาจพระสังโฆ จงมาขับผีทั้งหลายให้ออกนอกป่าแลนอกดง ผีโพงแลผีพายผีหน้าลายแลหน้าด่าง ผีฝูงนี้ขอพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จงเอาดาบม้ามแก้ว กล่าวแล้วคือพระธรรม จงให้นำออกเสียยังภูตผี ปีศาจโตอาจหาญ ด้ายอาการแห่งพุทธานุภาพ จงกำหนาบให้ออกหนี อิกะวิติ มหิทธิกา พุทธานุภาเวนะ อาปามะจุปะ ฑีมะ สังอังขุ สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ

            อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วัตตโส ภควาสัมมาสัมพุทโธ วัตตโส ภควา วิชชาจรณสัมปันโน วัตตโส ภควา อนุตตโร ปริสธัมมสารถิ วัตตโส ภควา สัตถาเทวมนุสสานัง วัตตโส ภควา พุทโธ วัตตโส ภควา อรหัง สรณัง คัจฉามิ อรหัง สิรสา นมามิ สัมมาสัมพุทธัง สรณัง คัจฉามิ  สัมมาสัมพุทธัง สรณัง คัจฉามิ วิชชาจรณสัมปันนัง สรณัง คัจฉามิ วิชาจารณสัมปันนัง สิรสา นมามิ สุคตัง สรณัง คัจฉามิ สุคตัง สิรสา นมามิ โลกวิทุง สรณัง คัจฉามิ โลกวิทุง สิรสา นมามิ อนุตตรังปริสทัมมสารถิ สรณัง คัจฉามิ อนุตตรัง สิรสา นมามิ สัตถัง เทวมนุสสานัง สรณัง คัจฉามิ สัตถัง เทวมนุสสานัง สิรสา นมามิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ พุทธัง สิรสา นมามิ เกศา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ อินทสาวัง มหาอินทสาวัง พรหมสาวัง มหาพรหมสาวัง จักกวัตติสาวังมหาจักกวัตติสาวัง มนีสาวัง มหามุนีสาวัง พุทธสาวัง ปัจเจกพุทธสาวัง สัพพสิทธิ ภวันตุเม หุนรู หุนรู สวาหายะ หุนรู หุนรู สวาหายะ

            ธรรมพระอรหันต์ ๒ บทนี้ เรียกบทขับ ใช้สำหรับขับไล่ภูตผี ปีศาจ ปอบเป้า ไท้แถน ตาแฮก ปู่ตา หรือสรรพเสนียดจัญไร ศัตรูทั้งหลายให้หนีไป ใช้เสก ๓ หรือ เจ็ด จบ ทำน้ำมนต์

บทจืด

            สาธุ สาธุ สาธุ พุทโธจืด ธัมโมจืด สังโฆจืด พุทโธหาย ธัมโมหาย สังโฆหาย อิติปิโสจืด กูจักจ่มให้จืดทั้งผีหุงแลผีห่า ผีป่าแลผีดง ผีโพงและผีพราย ผีหน้าลายอยู่นำเงือก ผีอยู่เทือกนำงู ผีอยู่ภูแลอยู่ไม้ ผีอยู่ใต้แลอยู่เทิง พระธรรมเจ้าจืดเสีย

            พุทโธจืด ธัมโมจืด สังโฆจืด กูจักจ่มให้จืดทั้งดินดอนแลป่าไม้ ทั้งทางใต้แลทางเมือง

พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า ผีเป้าแลผีโพง ผีดงแลผีป่า ผีห่าแลผีหุงผีกะทงแลผีเชื้อพ่อแม่แลตานาย ผีพายแลผีปอบ อยู่ตามขอบจักรวาล ผีมารแลผียักษ์ ผีชักเขากันคน พระธรรมเจ้าจืดเสีย

            พุทโธจืด ธัมโมจืด สังโฆจืด กูจักจ่มทั้งแผ่นฟ้าแลแผ่นดิน พระธรณีผู้รักษาทางใต้ หมอแถนใต้อยู่ทางเทิง จงมาจืด ผีหุงแลผีห่า ผีป่าแลผีดง ผีโพงแลผีเป้า ผีเถ้าแลผีแถน ผีแขนแนนเที่ยวกลางบ้าน ผีขี้คร้านเที่ยวอยู่นำคน พระธรรมเจ้าจืดเสีย  พุทโธจืด ธัมโมจืด สังโฆจืด อุ อะมะกะสะวะ จืด

            ธรรมพระอรหันต์ สามบทนี้เรียกห้องจืด ใช้ทำที่บ้านที่สวน ที่ไร่ ที่นาที่ป่าที่ดง ที่เข็ดขวางให้จืดจางไป หรือคนที่ผีเข้าเจ้าสูญ หายจากเจ็บไข้ได้ป่วยมีภูตผีปีศาจจากที่ใด ให้ใช้มนต์นี้ขับ เสก ๓ หรือ ๗ จบ ทำน้ำมนต์รดอาบหรือกิน เสกแฮ่เสกทราย หว่านไปในที่เข็ดขวาง อีกอย่างหนึ่งให้เอกหิน ๙ ก้อนจากน้ำสร้าง ๙ แห่ง มาเสกด้วยมนต์นี้ ๓ หรือ ๗ จบ แล้วเอาหินไปฝังไว้ในทิศทั้ง ๘ อีกก้อนหนึ่งฝังไว้ตรงกลาง แล้วภูตผีปีศาจจะจืดจางหายไป

ผูกผี

            อิมัง กายพันธนัง มารัง พันธิตวา นมามิหัง อิติปิโส จ เตน โม อิติปิ โส ปลายังสุ นะผูก โมมัด พุทรัด ธารึง ยะตัง สหายะฯ

            มนต์ผูกผีนี้ เมื่อผีเข้าเจ้าสูญ เสกใส่ฝ้าย ๓ หรือ ๗ จบแล้วไปผูกผีที่เข้าคน แล้วถามเอาถ้อยคำจากมันหากไม่แก้มันจะออกไปไม่ได้

คาถานางธรณีรีดมวยผม

            ตัสสะ เกสี ยัตถะ ปะวัตติ คงๆ ตรงพระธรณี ปฐพีมณฑล กะระนะ มาระเสนา    ปะลายันติฯ

            คาถานางธรณีรีดมวยผมนี้ เสก ๗ จบทำน้ำมนต์รดแผ่นดิน ผีจะมาที่นั่นไม่ได้อีก อีกอย่างหนึ่งให้เสกแฮ่เสกทราย หว่านรอบบ้านรอบเมือง เมื่อเดือดร้อนหรือคับขัน ให้เสกมนต์บทนี้ ศัตรู ทำอันตรายไม่ได้เลย

บทหยาดน้ำ

            อิมินาปุญญกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำมา ขอจงไปค้ำชูอุดหนุนบิดามารดา ครูบาร์อาจารย์ อุปัชฌาย์ เพื่อนร่วมชาติ ศาสนาเสนาน้อยใหญ่ พระภูมิเจ้าที่พระนางธรณี แม่พระคงคาพระยาครุฑพระยานาค พญามัจจุราช นายนิริยบาล ศิริคุตอามาตย์ เบื้องบนตั้งแต่ชั้นจาตูม เบื้องล่างตั้งแต่อเวจีขึ้นมา จนถึงที่สุดมนุษย์โลก สัตว์ทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ สัตว์ทั้งหลายที่มีสุขก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะกุศลผลบุญที่ได้สร้างไว้ จงเป็นอุปนิสัย ปัจจัยแก่พระนิพพานในอนาคตกาลภายหน้า ก็ข้าเทอญ

            บทหยาดน้ำหนีเมื่อได้ทำหรือปราบภูตผีให้แก่ใครๆได้แล้ว ท่านให่แผ่ส่วนกุศลให้ เพื่อมิให้มีกรรมมีเวรต่อกันอนึ่งสัตว์ที่ถูกเราข่มเหง ขับไล่ ผูกมัดไว้ จักได้หายความพยาบาทอาฆาตจองเวร การแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลถือเป็นการให้อภัยแก่กัน

มนต์อารธนาพระคุณกลับ

            สาธุ สาธุ สาธุ คุณครูบาอาจารย์พระธรรมเจ้าจึงให้ถอยเพิกเลิกออก จากกายและใจผู้ข้าเทอญ พุทโธเพิก ธัมโมเพิก สังโฆเพิก ขออันเชิญคุณพระธรรมเจ้า จงเสด็จออกจากกายทวารมโนวิญญาณแห่งข้าพเจ้าเทอญ อาราธนัง กโรมิ ฯ

            มนต์อาราธนาพระคุณกลับนี้ตามหลักของหมอธรรม เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะกระทำการใดๆ เกี่ยวกับพระธรรม ให้อาราธนาเชิญเอาพระคุณของท่านมาช่วยเหลือ ขจัดปัดเป่าและป้องกันรักษา ให้พ้นจากภัยอันตราย เมื่อสำเร็จ สมประสงค์ แล้วจงเชิญพระคุณท่านกลับไป

(จบ)

ธรรมเก้าโกฎิ

ธรรมครูนี้เป็นของ ยาถ่านเงาะท่านเป็นพระเถระมีอวัยวะไม่สมประกอบ แต่เป็นที่เคารพนับถือจากประชาชน

            ท่านให้ยกครูวันอังคารคายขัน ๕ ขัน ๘ ซิ่นผืน แพรวา เทียมเล่มบาทสองคู่ ห่อนิมนต์สองห่อ ขันหมากเบ็ง ๙ ยอดหนึ่งขัน ขันหมากเบ็ง ๗ ยอดสามขัน วิธีใช้สำหรับรักษาภูตผีปีศาจปอบเป้าโพงพาย

            เมื่อตั้งคายครบแล้วให้ ยกคายมาตั้งไว้ข้างหน้า กราบนมัสการแล้วว่า นะโม ๓ จบ ป่าวสัคเคเทวดาแล้วสวดมนต์พอสมควร ต่อจากนั้นจึงอาราธนาคุณ

อาราธนาคุณ

            สาธุ สาธุ สาธุ พุทโธ เม นาโถ ธัมโม เม นาโถ สังโฆ เม นาโถ

พุทธะ พุทธะ พุทธะ อรหัง สัมมาสัมพุทธัง อาราธนัง กโรมิ ข้าพเจ้าขออาราธนา เอายังพระอภิธรรมคัมภีร์ มีพระธรรมสังคิณีเป็นเค้า ขอแก่คุณพระอภิธรรมเจ้าจงเสด็จมาสถิต อยู่เหนือเกษเกล้าเกศาแห่งข้าพเจ้าเทอญ พุทธอาราธนา ธัมมอาราธนา สังฆอาราธนา ข้าพเจ้าขออัญเชิญคุณครูบาอาจารย์ บิดามารดา เทพเจ้าตนเหง้าธณี จงลงมาเป็นสักขีพยานช่วยปราบมารที่ย่ำยีพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าขออันเชิญเอาคุณศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ จงลงมาตั้งอยู่ในจักขุทวาร กายทวาร มโนทวารโสตวิญญาณ จักขุตา ของข้าพเจ้าให้แจ้งส่องเหมือนดวงพระอาทิตย์เจ็ดดวง อาราธนัง กโรมิ

(กราบ ๓ หน)

ห้องสมาธิ

            สาธุ สาธุ พุทโธสิทธิ ธัมโมสิทธิ สังโฆสิทธิ

พุทโธ ศักดิ์สิทธิ์ ธัมโม ศักดิ์สิทธิ์ สังโฆ ศักดิ์สิทธิ์

พุทโธ ส่องแจ้ง ธัมโมส่องแจ้ง สังโฆส่องแจ้ง

พุทธา ศักดิ์สิทธิ์ ธัมมา ศักดิ์สิทธิ์ สังฆา ศักดิ์สิทธิ์

ศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลที่กล่าวมานี้ นะ พุทโธ นะ ธัมโม นะ สังโฆ นะนะตัง สังนะมะ กะยะกะยะ กะกะสะนะ สุนเตนัง สังนังกังตังตัง ยังตังสะสะ กังยังตังตัง ตังอะอุ

            ห้องสมาธิก่อนจะทำการใดๆ ที่ป้องกันหรือปราบปรามภูตผีปีศาจ ท่านให้เจริญธรรมห้องสมาธินี้ก่อนเจริญไปจนจิตใจแน่วแน่ สามารถที่จะส่องเห็นเหตุการณ์ต่างๆได้แล้ว จีงเจริญห้องกำบัง

ห้องกำบัง

            โอมปิดๆ โอมบังๆ กูซิบังเทิงตาขยับ กูซิบังเทิงตับในเนื้อ กูซิบังเทิงเสื้อสวมตน กูซิบังเทิงงัวแม่ลาย กูซิบังเทิงความแม่เว้อ กูซิบังเทิงเสา เฮือนตั้ง กูซิบังเทิงดั้งกูอิง กูซิบังเทิงเทิงคิงกูเท้า กูซิบังเทิงเจ้ากูนอน กูซิบังเทิงหมอนแลเสื้อ พุทธังตัญจะ ธัมมัง ตัญจะ สังฆังตัญจะ กูซิบังเทิงข้างซ้ายแลข้างขวา กูซิบังเทิงข้างหน้าแลข้างหลัง กูซิบังเทิงหัวแลปลายตีน กูซิบังเทิงเล็บตีนแลเล็บมือ กูซิบังเทิงตับแดงในแลแดงนอก กูซิบังเทิงหมากหัวใจแลใส่อ่อน กูซิบังเทิงต่อนเนื้อดูกข้อแลดูกขา กูซิบังทังตาและหูทุกอย่าง พุทโธบังลับ ธัมโมบังลับ สังโฆบังลับ กูซิบังเทิงปากเมื่อกูพูดจา กูซิบังเทิงตาเมื่อกูหลับตื่น กูซิบังเทิงข้าวปลูกแลข้าวเยีย กูซิบังเทิงเมียแลลูกฮัก กูซิบังเทิงเพื่อนฮักศิษย์สหาย กูซิบังเทิงตายาย พ่อแม่ พี่น้องวงษา กูซิบังเทิงหมูหมาเป็ดไก่ สัตว์น้อยใหญ่ทุกตน สิทธิพุทโธบัง สิทธิพระธัมโมบัง สิทธิพระสังโฆบัง ตัน นะมะพะธะ อุทธัง อัทโธ อัทธัง สะหับบัง

    โอมตัตตา มหาตัตตา ครูนี้บังได้พันช่องเป็นป่องกูซิบัง เขาใส่ลิ่มตำมองกูก็ซิบัง หนังทองเขาแล่นกูก็สิบัง กูซิบังทังหุ่นเขาใส่แลเขาลอง กูซิบังเทิงตองเขาใส่ คนจักไง้แผ่นฟ้าแลแผ่นดิน มาใส่กูก็บ่มีถอง งัวธนูเหล็กงัวธนูทอง มาลองกูก็บ่มีย้าน พุทโธตัญจะอัด ธัมโมตัญจะอัด สังโฆตัญจะอัด นะอุด โมอัด พุทปัด ธาปิด ยะสูญหาย โอมสะหับ บัง

            ทั้งสองบทนี้เรียกว่าห้องกำบัง ใช้สำหรับป้องกันและกำบัง ภูตผีปีศาจ สิ่งใดที่กล่าวถึงในบทมนต์นี้ กำบังได้หมดไม่เป็นอันตราย แม้คนหรือผีจะมาใส่ก็ไม่ถอง มาลองก็ไม่ถูก จนขั้นที่สุดเขาใส่งัวธนูครูหน้าน้อย ก็ไม่อาจทำอันตรายได้

เสกด้ายผูก

  อนิทัสสะนะ อัปปฏิฆายะ นิทัสสะนะปัตติ คายะจะ อนิทัสสะนะ อัปปติคายะ จะอัดอุด

บทนี้เสกฝ้ายผูกข้อแขน คอป้องกันผีปีศาจ

กำแพงแก้ว ๓ ชั้น

   พุทธคุณัง ธัมมคุณัง สังฆคุณัง คุณแม่พระธรณีผู้อยู่เหนือน้ำ ผู้ค้ำแผ่นดินก็ดี คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณแก้วสามประการคุณพระนารายณ์ คุณพระอิศวร คุณดิน น้ำ ลม ไฟ คุณธาตุ สี่ขันห้า คุณพญาครุฑ

คุณพญานาค คุณพระกกุสันโธ โกนาคมโน กัสสโป โคตโม พระศรีอริยเมตไตโย ขอจงลงมาบังตนตัวผู้ข้า ตลอดภริยาลูกเมีย งัวควายของข้าพเจ้าก็ข้าเทอญ สาธุ สังโฆ พระเมตตา พรหมวิหาร พระกัมมัฏฐานเจ้า จงมาเป็นกำแพงหินทั้ง ๔ ชั้น คุณพระกรุณาพรหมวิหาร พระกรรมฐานเจ้า จงมาเป็นกำแพงแก้วทั้ง ๕ ชั้นคุณพระมุทุตาพรหมวิหาร พระกรรมฐานเจ้า จงมาเป็นกำแพงฟ้ากั้นบังตัวผู้ข้าทั้ง ๖ ชั้น คุณพระอุเบกขาพรหมวิหาร พระกรรมฐานเจ้า จงมาเป็นกำแพงเพชร กั้งตัวผู้ข้าทั้ง ๗ ชั้น พระพุทธัง จงมาเป็นกำแพงเหล็กกั้งบังตัวผู้ข้าทั้ง ๘ ชั้น คุณพระธัมมัง จงมาเป็นกำแพงเพชรทั้ง ๙ ชั้น กั้งบังตัวผู้ข้าอย่าหนี คุณพระสังฆเจ้า จงมาเป็นเสนาอามาตย์รักษาข้าพเจ้า ที่สัตว์มันจะมาทำอันตรายต่างๆ ตลอดทั้งภริยาลูกเมียงัวควาย พี่น้องของข้าพเจ้า พุทธังให้รักษา ธัมมังให้รักษา สังฆังให้รักษา ติดโต โส ภควา

นมามิตัน พุทโธบังลับ ธัมโมบังลับ สังโฆบังลอง โอมสหับบัง

กำแพงแก้วเจ็ดชั้น

  พุทโธ เม สัตตะรัตนะปารารัง ธัมโม เม สัตตะรัตนะปารารัง สังโฆ เม                                สัตตะรัตนะปารารัง คังระโม อะอัง  พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ให้ปิดเสีย ให้เว้นเสีย ให้แคล้วเสียให้หลีกผีกหนีเสีย  จากตนโตผู้ข้าเทอญ

            ทุติยัมปิพุทธัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ให้ผิดเสีย ให้เว้นเสีย ให้แคล้วเสียให้หลีกผีกหนีเสีย  จากตนโตผู้ข้าพเจ้าเทอญ

            ตติยัมปิพุทธัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ตติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ชีวิตะปริยันตัง

ให้ผิดเสีย ให้เว้นเสีย ให้แคล้วเสียให้หลีกผีกหนีเสีย  จากตนโตผู้ข้าพเจ้าเทอญ

อิติปิโส อิอิโสโส พูพุทธะนิตัง พุทธะนะ พุทธะโส โอมพุทโธ พุทธายะ มหาพุทธัง เด็กการะสิท ธัมมสวนกาโล อยัมภทันตา ขาเท นะขานัง ปริยันตังตัม ภณามะ เห

            โอมหน้าจ้างน้อย เขาใส่เผ่าทอง กูซิบังทั้งปืนเขาลอง กูซิบังทั้งป่องปืนไป กูซิบังทั้งไกปืนลั่น กูซิบังทั้งหน้าจ้างน้อย เขาใส่เผ่าทอง กูซิบังทั้งหนังทองเขาแล่นเข้าท้อง ไผซิดกูบ่มีถอง ไผลองกูบ่มีได้เบื้องซ้ายกูพ่อครูกูให้ถือพลได้หมื่นโยชน์ แม่นเขาสวดเที่ยวฮวยมนต์กูบ่มีย้าน เพราะว่ากูได้ท้าวผู้ใหญ่มาเป็นครูเมื่อกูปากให้เขากลัว เมื่อกูหัวให้เขาอ่อนอ่อนพอปานไฟไหม้ป่า ไผบ่อ่อนให้ฟ้าผ่าหัวมัน โอมลิดติด เทิงฟ้าเท่าทั่วแผ่นดิน สวาหะ

            โอมติดเห ครูพ่อกูไว้ กูก่อพ่อครูกูให้กู โอติดเห ครูพ่อกูไว้ กูก่อพ่อครูกูให้กู พ่อครูกูเผาเหล็กแดงให้กูนั่งกูก็นั่งได้ พ่อครูกูเผาทั้งแดงให้กูอิง กูก็อิงได้เบื้องใต้ก็มีหินฮอง เบื้องเหนือมีทองคำล้านมาบังตนกู สองตาบข้างกูมีม่านเหล็กมาบังตนกู  พุทธัง สวาหะ เหตุใดเจ้าเย้อ มีราชาตนประเสริฐ มหากำจัดเบื้องซ้าย มหากำจัดเบื้องขวา สิทสิท เสก คง คง อุทธัง อัทโธ ระงับ

            โอมรัตนะ เกกาลาเพย ลาเหย ลาแล กำชัดกำแซ แทแทสวาหะ สิทธิมหาเพท พระครูบา โอมพิชะตึง กำจัด กำซ้าย ขาย้ายเบื้องขวา โอมสีแสนมหาสีสันเพยเหย โอมสวาหะ โอมกูซิจัดแต่ใต้เมือเหนือ โอมกูสิจัดแต่เหนือเมือใต้ กูบ่หยุดหย่อนย้าน ราชะก้องเปี้ยนกล้าหลาวเหล็กแหลม กูซิเหยียบทั้งเหล็กปะกบ กูซิเหยียบทั้งเหล็กปะกำให้ลุ่ยหนีเสีย กูซิฟันหัวสุด้วยหอกดาบ ให้พ่ายหนีไปไกล อย่าล้าอย่าอยู่เยเน นิมิตสวัสดีคือ พระหุรมานผู้กล้าถ้าใผเห็นหน้ากู ดูวันหลวงปานเดือนห้า ภายหน้ากูมีเจ้าฟ้ามารักษา ภายหลังกูมีพญาพรหมมาอยู่เฝ้าสองแขนซ้ายขวากูมีพระนารายณ์มารักษา รายลุ่มกูมีพญาครุฑพญานาค นางนาถน้อยธรณมารักษาโอม จักกะ สวาหะ

ยอดธรรมเก้าโกฏิ

    เอ พุทโธ เอ ธัมโม เอ สังโฆ เอ นะ กังกัง นะเอ อัดทะกัง อัดทะหัง กะทะโส                       โสทะทะ อะทะหะ อะยะหัง โสยะหัง วิสุโล โหตุ

  สิททัสสา สิททัสสี สิทนะตุ สิทนะตัง สิทยะหัง นะกะกะ อะอะอะ  เอนะ ตัง เออุ

            มะสะยะ อะอะหะ ปะอิตัง กังสังกัง กุกังกุ สังกุนะ นะยะหะ

            เอหัง เอเต เตเอ เอพุ หิตัง หิหะ หะยะ โส สิ

            สะยะตัง กังยะกุ กุกุนะ กุโมกุ โอกุ โส กุโลกุตะ ตะตะตะ

            เตตัง เตหัง หังทันจะ ยะหังทันจะ ยะกัง ทันจะ ยะสุทันจะ ยะสะทันจะ อุอะ

            สิททันสี สิททะหัง อิตทันหัง หังทันอิต อิดอัดปัดปิด นะจังงัง สัจจะงโง โสสิทิ

            นะผาบ โมผาบ โอผาบ กุผาบ กังผาบ สังผาบ ตังผาบ หังผาบ ยะผาบ มาผาบ ปะผาบ สะผาบ อังผาบ กูจักผาบ ทั้งผีพายแลผีเป้า ผีเห่าแลผีหอน ผีอยู่ใต้ดงดอนให้ล้มตายเป็นท่าวก็ข้าเทอญ กูจะเอาอะมาเป็นอังฯ

            มนต์แปดบทนี้เรียกยอดธรรมเก้าโกฏิ โบราณถือว่าธรรมนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ให้สำหรับป้องกันและรักษาปอบ เป้า โพง ผี อาฮักษ์ หลักที่ ผีไท้ ผีแถน ผีดง ผีป่า ปีบ้า ถ้าจะทำให้ ที่ที่เข็ดขวางจืดจางไป ให้เสกน้ำมนต์รดเสกแฮ่ เสกทรายหว่านรอบ เสกฝ้ายเสกหญ้าคา ทำเป็นด้ายสายสิญจน์วงรอบ  เขียนคาถาทั้ง ๘ ตัวให้ครบ ๑๐๘ จบ แล้วนำไปตอกลงในทิศทั้งแปด ป้องกันภูตผีปีศาจมารบกวนย่ำยีได้ดีนักแล

บทอาราธนาธรรมออก

            สาธุ สาธุ สาธุ พุทโธเพิก ธัมโมเพิก สังโฆเพิก พุทธอาราธนัง กโรมิ   (บทนี้เสก ๗ จบ แล้วว่าต่อไปว่า ) สาธุ สาธุ ผู้ข้านิมนต์คุณศีล คุณธรรม คุณครูบาอาจารย์ จงเสด็จออกจากการยทวารมโนทวารแห่งข้าพเจ้าในกาลบัดนี้ก็ข้าเทอญ

            พอว่าบทนี้จบ พระธรรมจะออกอาจารย์ธรรมก็จะเป็นปกติ ไมมีอาการสั่นเทาอีก

คาถาบูชาพระเจ้า

นะโมพุทธายะ

ตัง เม สะทิโก มังสุเรโส อะปะนา ปะสุสุปิ อะทะ สิติ ปุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง ฯ

            สัมพุทโธ  ทิปะทัง  เสฏโฐ              นิสินโน  เจ  วะ  มัชฌิเม

โกณฑัญโญ  ปุพพะภาเค  จะ                     อาคเณยเย  จะ  กัสสะโป

สารีปุตโต  จะ  ทักขิเณ                                หะระติเย  อุปาลี  จะ

ปัจฉิเมปิ  จะ  อานันโท                    พายัพเพ  จะ  ควัมปะติ

โมคคัลลาโน  จะ  อุตตะเร              อีสาเนปิ  จะ  ราหุโล

อิเม  โข  มังคะลา  พุทธา                 สัพเพ  อิธะ  ปะติฏฐิตา

วันทิตา  เต  จะ  อัมเหหิ                   สักกาเรหิ  จะ  ปูชิตา

เอเตสัง  อานุภา  เวนะ                                 สัพพะโสตถี  ภะวันตุโน

                        อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง

                        นะมัสสะมาโน  ระตะนัตตะยังยัง

                        ปัญญาภิสันทัง  วิปุลัง  อะลัตถัง

                        ตัสสานุภาเวนะ  หะตันตะราโย

บทนี้สวดเป็นประจำทุกวัน วันละหลายๆครั้งยิ่งจะดีแก่ตนและครอบครัว และยังทำให้เป็นสิริมงคลเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย